บรรยากาศวันเลือกตั้ง

เชิญชมบรรยากาศวันเลือกตั้งกรรมการสหกรณ์ฯ

ประธานชมรมผู้เกษียณ ทักทายสมาชิก



บรรดาผู้เกษียณเข้าคิวรอลงคะแนนเลือกตั้ง










คิวผู้เกษียณ





รับทุนการศึกษา








ขายเสื้อเป็นทุนช่วยเด็กชนบท ติดต่อ ฐิติชัย(สบู่) ได้ที่เขตลาดกระบัง  "สังคมอยู่ได้ด้วยการแบ่งปัน"





ถึงจะแก่จะหนุ่ม ก็มีคนละ 1 เสียงเท่ากันนะครับ






3 ประธานฯ(คนที่ 1,2,4 จากซ้าย นั่งรอฟังผลการเลือกตั้ง (คนที่3 ผมเองครับ)
 




ไม่มีคำบรรยาย (ให้คนดูบรรยายเองแล้วกัน)








พอหอมปากหอมคอนะครับ
ลงมากเดี๋ยวคนเขาจะเหม็นหน้าเอา




**********

ลองอ่านไว้เตือนใจผู้นำ

ลอกจากไทยรัฐ(26 ก.พ.2554)มาครับ
อ่านไว้เตือนใจ สำหรับทั้งผู้นำเก่าและผู้นำใหม่
อยากให้อยู่กันนานๆ

(คำเตือน: ท่านผู้นำควรติดตามข่าวสารในสื่ออิเล็คโทรนิคไว้บ้างนะครับ  มิฉะนั้นจะโดนปฏิวัติโดย "Facebook" เช่น "ตูนิเซีย" แล้วจะหาว่า "ไม่เตือน")


ขอแสดงความยินดี


ที่สองจากซ้าย ประธานชมรมผู้เกษียณฯ,ประธานสหกรณ์ฯ, ประธานสหภาพฯ



ขอแสดงความยินดีกับทีมผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยครับ

ผลการเลือกตั้งฯมาแล้ว


ผลการเลือกตั้งกรรมการดำเนินการ
สหกรณ์ออมทรัพย์ สอฟ.

วันที่ 24 กุมภาพันธุ์ 2554

เวลา 08.00 - 15.00 น.







หมายเลข  1 นายสนิท ไซประเสริฐ               4,280   (8)     คะแนน
หมายเลข  2 นายวิรัตน์ ยะก๊บ                     3,613   (12)    คะแนน
หมายเลข  3 จ.อ.พิพัฒน์  วงษ์ฤทธิ์              3,494   (14)     คะแนน
หมายเลข  4 นางรัตนาภรณ์  ยี่สุ่น                3,767   (11)    คะแนน
หมายเลข  5 นายมงคล  ใจชุ่ม                    3,544    (13)     คะแนน
หมายเลข  6 นายประพงษ์  ทองทวี              3,839   (10)    คะแนน
หมายเลข  7  นายประสงค์  บูชา                 4,071    (9)      คะแนน

หมายเลข  8  นายไพบูลย์  แก้วเพทาย         6,260    (2)     คะแนน
หมายเลข  9  นายประจวบ  คงเป็นสุข          6,341     (1)    คะแนน
หมายเลข 10 นายสมาน  ขามเทศทอง         6,029    (3)     คะแนน
หมายเลข 11 นายสุวรรณ  กาเซ็ม               5,888    (4)     คะแนน
หมายเลข 12 นายวันลักษณ์ ชีวะถาวร          5,782     (6)    คะแนน
หมายเลข 13 นายวีระ  แจ่มนาม                 5,810    (5)     คะแนน
หมายเลข 14 นายบุญเลิศ  เด่นดี                5,365    (7)     คะแนน


(โปรดตรวจสอบคะแนนอย่างเป็นทางการ)



หมายเลข 8 - 14 เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งฯ จำนวน 7 ท่าน




************


ขอแสดงความยินดีมายังผู้ได้รับเลือกตั้งทุกท่าน
การเลือกตั้งเป็นการใช้สิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตย
และขอให้ผู้ได้รับการเลือกตั้งได้ปฎิบัติตามคำมั่นสัญญา
ที่ได้ให้ไว้แก่สมาชิกโดยเท่าเทียมกัน






฿ ฿ ฿ ฿ ฿ ฿ ฿ ฿ ฿

คู่มือการเลือกตั้ง

คู่มือการเลือกตั้ง
เราจะเลือกอย่างไรดี.......
ผู้เกษียณอาจมีข้อจำกัดในการรับ "ข้อมูลข่าวสาร"
จึงขอเสนอความคิดเห็นบางประการเพื่อประกอบการพิจารณา

ลองพิจารณาหัวข้อเหล่านี้ดู........
การตัดสินใจ เป็นสิทธิ์ของท่าน





1. ความรู้  คือความ "เข้าใจ" ในเรื่องต่างๆเข่น "รู้รอบ" คือรู้หลายๆเรื่อง "รู้ลึก" คือรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลึกซึ้ง   คนที่มีความรู้ย่อมได้เปรียบกว่าคนที่รู้น้อย เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าเรามีความรู้ มีข้อมูลที่มากกว่า ดีกว่า ก็จะสามารถนำข้อมูลนั้นๆมาประกอบการตัดสินใจได้ดีกว่าถูกต้องกว่าคนที่มีข้อมูลน้อยกว่า โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดเสียหายก็จะน้อยกว่า

2. ความสามารถ เมื่อมีความรู้แล้ว ต้องมีความสามารถด้วย จึงมักเรียกรวมกันว่า "ความรู้ ความสามารถ" ถ้ามีความรู้แล้วไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ความรู้นั้นก็ไร้ประโยชน์  ดังนั้นเราจะดูคนมีความรู้อย่างเดียวไม่ได้  ต้องดูที่ความสามารถด้วย  ดูว่าเขาสามารถ บริหารจัดการเรื่องต่างๆให้สำเร็จลุล่วงไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

3. ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีองค์กรใด สามารถจะออกแบบระบบการบริหารองค์กรให้สามารถป้องกันการทุจริตได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็น "กูรู" ทางด้านการบริหาร และเป็นต้นแบบในการบริหารแบบ "ธรรมาภิบาล" ก็ยังมีการล้มละลายของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับแสนล้านเหรียญเป็นจำนวนมาก ซึ่งเกิดจากการทุจริตของผู้บริหาร  กองทุนผู้เกษียณในอเมริกาก็ล้มมาแล้วเพราะเจ้าหน้าที่ทุจริต ซึ่งทำให้เกิดวิกฤต "แฮมเบอร์เกอร์" มาจนทุกวันนี้ (แล้วสหกรณ์ของเรามีการบริหารกันอย่างหลวมๆ กรรมการมาจากการเลือกตั้ง บริหารโดยมติของกรรมการเสียงข้างมาก "พวกมากลากไป" จึงอาจจะเกิดอะไรขึ้นได้เสมอ ยังดีที่ยังมีหน่วยงานราชการกำกับดูแลอยู่บ้าง)  ดังนั้นการเลือกคนเข้าไปบริหาร โดยเฉพาะสถาบันทางการเงิน จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง "คู่มือ" นี้จึงขอให้ท่านพิจารณาข้อนี้อย่างรอบคอบ

4. ความเป็นธรรม สหกรณ์ฯเกิดจาการรวมกลุ่มของ "กลุ่มคน" ที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องมีคนกลาง  ผู้ที่มีช่วยเหลือผู้ที่ไม่มี  โดยมีประโยชน์ตอบแทนตามสมควรด้วย "เป็นธรรม" ผู้กู้สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าข้างนอก ผู้มีเงินฝากก็ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าข้างนอก ในอัตราที่ "สมน้ำ สมเนื้อกัน" เหตุเพราะสหกรณ์ฯไม่ต้องกันเงินเพื่อเป็น "กำไร" เพื่อสะสมไว้เช่นสถาบันการเงินภายนอก  และต้องไม่ลืมว่า "เงิน" นั้นเปรียบเหมือน "น้ำ" มันจะพยายามไหลให้อยู่ในระดับเดียวกันอยู่ตลอดเวลา ถ้ามูลค่าที่จุดใดไม่เท่ากับอีกจุดหนึ่ง มันก็จะไหลไปรวมกับอีกที่หนึ่ง
ดังนั้น ถ้าการจัดสรรผลประโยชน์ตอบแทนที่ "ไม่เป็นธรรม" อย่างน้อยก็เป็นการ "บิดเบือน" "เจตนารมณ์" ของสหกรณ์ และในระยะยาวอาจเกิด "วิกฤตทางการเงิน"  ขึ้นในสหกรณ์ก็เป็นได้

          ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสหกรณ์ต่ำกว่าอัตราเงินเฟื้อแล้ว ท่านคิดดู ท่านฝาก 1 ปี นอกจากเท่ากับท่านไม่ได้ดอกเบี้ยแล้ว เงินต้นของท่านยังหายไปกับอัตราเงินเฟื้ออีก  แม้ขณะนี้สถาบันการเงินภายนอกกำลังทะยอยการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากกันอย่างต่อเนื่อง  แต่กรรมการสหกรณ์ "เสียงข้างมาก" กลับมีมติให้ลดดอกเบี้ยเงินฝากลง โดยปราศจากหลักการการบริหารการเงินใดๆทั้งสิ้น  เพียงเพื่อจะนำข้ออ้างนี้ไปหาเสียงกับผู้กู้ที่เป็นพรรคพวกกลุ่มหนึ่งเพื่อเพิ่มคะแนนเสียงให้พวกตนเท่านั้น  การกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ ไร้วินัยทางการเงินนี้ ท่านยอมรับกันหรือไม่  นี่ยังไม่พูดถึงการนำเงินมาจ่ายในวันเลือกตั้งเปล่าๆโดยไร้เหตุผลเช่นกัน  ณ วันนี้ท่านสมาชิกอาจจะชอบ แต่ในวันหน้า ไม่รู้ว่ายังจะมีสหกรณ์ให้พวกเราได้พึ่งพาอาศัยกันหรือไม่  อย่าลืมว่าถ้าผู้ฝากเงินอยู่ไม่ได้ ผู้กู้ในอนาคตก็อยู่ไม่ได้เพราะไม่มีเงินให้กู้เหมือนกัน) ดังนั้นจึงควรเลือกคนที่มีใจเป็นธรรมในการจัดสรรผลประโยชน์ให้ความสมดุลกับทุกกลุ่มโดยเท่าเทียมกัน จะหาเสียงก็หาโดยแสดงความสามารถในการทำงาน ไม่ใช่เอาเงินของสหกรณ์มาแจกเล่น ผมพยายามจะวิจารณ์ด้วยความเป็นธรรม แต่การกระทำบางอย่างมันรับไม่ได้ ขืนปล่อยไว้ "ฉิบหาย" แน่ (ใครจะโกรธ ก็ยอมให้โกรธแล้ว)

5. มีจิตมุ่งมั่น จงเลือกคนที่มีจิตมุ่งมั่นที่จะเข้ามาทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกด้วยความจริงใจ  มิใช่เข้ามาเพื่อหาช่องทางหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง  บางคนยังไม่มีความสามารถบริหารจัดการด้านการเงินของตนเองให้รอดจากความล้มเหลวได้เลย  แล้วเราจะไว้วางใจให้คนเหล่านี้มาบริหารเงินเป็นหมื่นล้านหรือ

ในเวลาสั้นๆก็คิดได้เท่านี้เองครับ......
อนาคตของสหกรณ์ฯ(ของท่าน)อยู่ในมือท่านแล้ว
...ไม่ต้องก้มไปดูหรอก (สำหรับสมาชิกผู้ชายน่ะ)

*******

ใครที่เห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบนนี้ ก็ช่วยบอกกันต่อๆไปด้วย
ส่วนใครที่ไม่เห็นด้วยก็ควรบอกต่อเช่นกัน
เพื่อเป็น "นานาทัศนะ" เพื่อช่วยกันพิจารณาถูกผิดต่อไป

พบกันวันที่ 24 ก.พ.

*********

ปัญหาชิงรางวัล

ขอเชิญตอบปัญหาชิงรางวัล
คำถามคือ....

1. เงิน 3,000.00 บาทนี้เป็นเงินของใคร

              ก. เป็นเงินของกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์
         ข. เป็นเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
         ค. เป็นเงินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์
         ง. เป็นเงินที่ควรนำไปจัดสรรประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกตามสัดส่วนที่เป็นธรรมตามหลักการสหกรณ์

2. เงิน 3,000.00 บาทนี้ ปีต่อไปจะเพิ่มเป็น

         ก.  5,000.00 บาท
         ข.  8,000.00 บาท
         ค. 10,000.00 บาท
         ง.  ยิ่งมากยิ่งดี (ก็ได้กับเขาด้วยนี่นา)

3. ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า เงิน 3,000.00 บาทจ่ายให้เพราะ

         ก. พนักงาน กฟน. มีรายได้น้อย  ส่วนใหญ่ยากจนค่นแค้น จึงต้องช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ
         ข. ในแต่ละปีพนักงานมาเลือกตั้งแล้ว มีเวลาเหลือต้องไปสังสรรค์ร่ำสุราจนเงินไม่พอจ่าย ต้องมีหนี้สิน ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
         ค. ปีนี้ผลประกอบการของสหกรณ์ดีมากเป็นพิเศษ ด้วยฝีมือของกรรมการชุดปัจจุบัน สามารถให้เงินปันผลได้ถึง 11 % (ยังอุบไว้ก่อน?) จึงสมควรนำเงินส่วนหนึ่งมาแบ่งจ่ายช่วยกันใช้หน่อย
         ง. คณะกรรมการมีมติว่าสมาชิกจำนวนมากเป็นผู้มีพระคุณต่อสหกรณ์ โดยการช่วยกันกู้จนแทบไม่มีเงินจะส่ง จึงต้องตอบแทนด้วยการคืนกำไรให้ลูกค้า ตามหลักการบริการที่ดี (แต่มีผู้ไม่หวังดี กล่าวหาว่า "หาเสียง" ซึ่งไม่เป็นความจริง ถ้าจริงขอให้สอบตก เอ้า...)


       ปัญหาทั้ง 3 ข้อนี้ ผู้ตอบถูกจะได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบิน 2 ที่นั่งสายการบินอียิปแอร์ไลน์ (One Way) ไปทัศนาจรดูปิระมิดและเยี่ยมทำเนียบ ฮอสนี่ มูบารัค โอมาบา  ที่ประเทศอียิปต์  เรายินดีให้ท่านเที่ยวอย่างสนุกสนานโดยไม่มีการกำหนดวันกลับ  ขอให้โชคดีทุกท่าน (วันเฉลยจะแจ้งให้ทราบต่อไป) 

      โปรดติดตาม "แคมเปญ" (ไม่ใช่แชมเปญนะครับ) ลด-แลก-แจก-แถม อีกมากมายที่เราจะมอบให้ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง นักข่าวของเราจะนำมาเสนอท่านต่อไป..โปรดติดตาม


คลายเครียด

ขณะนี้ข่าวทางโลกอาหรับกำลังฮอต เลยลอกตลกอาหรับมาเล่าเสียเลย

เรื่องรอบคอบที่สุด

          อุ๊ย  ตายแล้ว ทำไมเธอพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนโดยไม่เคาะประตูเสียก่อน  นี่ถ้าฉันกำลังโป๊อยู่ มิอายเธอแย่หรือนี่"

       คุณนายอาหรับรายหนึ่งดุคนใช้หนุ่ม

       "ไม่หรอกครับคุณนาย  ก่อนเข้ามาผมแอบดูที่รูกุญแจแล้วละครับ"

       คนใช้หนุ่มตอบ



******************

มติที่ประชุมใหญ่



มติทีประชุมใหญ่

            ในองค์กร บริษัท ห้างร้าน ไม่ว่าจะจัดองค์กรในรูปแบบใด  ย่อมต้องมีกฎ กติกา ระเบียบต่างๆ ไว้เพื่อเป็นหลัก หรือแนวทางในการบริหาร

         องค์กรเล็ก ระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆก็ไม่มากนักและอาจจะไม่ค่อยเคร่งครัดนัก  องค์กรใหญ่ๆหรือองค์กรที่มีผู้เกี่ยวข้องมาก มีผลประโยชน์มาก กฎกติกา  ระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆก็ต้องเคร่งครัดรัดกุม ต้องปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ  เช่นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น เป็นต้น

          กฎกติการะเบียบต่างๆ เมื่อได้บริหารไปหรือเวลาล่วงเลยไปเวลาหนึ่ง อาจมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนไป  กฎระเบียบเล็กๆน้อยๆในการบริหารที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ในข้อบังคับอาจมอบให้คณะกรรมการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้   แต่สำหรับระเบียบข้อบังคับที่มีผลต่อสมาชิก หรือผู้ถือหุ้น  เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอภิปรายอย่างรอบคอบและลงมติเป็นที่ยุติแล้ว  ในท้ายที่สุดจะต้องนำมาเสนอในที่ประชุมใหญ่  เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่รับรองก่อน จึงจะนำไปประกาศใช้ได้ต่อไป  นี่คือหลักการในการขอมติจากที่ประขุมใหญ่ (แต่ในทางปฎิบัติ พวกเราไม่ค่อยมีใครสนใจฟังหรอก)

          หรืออีกด้านหนึ่ง  ในที่ประชุมใหญ่จะเปิดโอกาสให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอที่ตนเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกส่วนรวมเข้าสู่การพิจารณา

         หลายปีมานี่ เราจะสังเกตุเห็นว่าการแข่งขันในการรับเลือกตั้งเข้าเป็นกรรมการสหภาพฯหรือกรรมการสหกรณ์ฯ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นทุกปี ชิงความได้เปรียบกันทุกเม็ด  งัดกลยุทธุ์ร้อยแปดมาฟาดฟันกันอย่างเต็มที่

          วิธีหนึ่งที่เห็นทำกันทุกปี คือ "ขอมติในที่ประชุมใหญ่"

         การเสนอเพื่อขอการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับต่างๆ  ถ้ากระทำด้วยความบริสุทธุ์ใจ  ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็ไม่มีใครว่าอะไร ยิ่งอยากจะแสดงความยินดีกับผู้เสนอเสียด้วยซ้ำไป

          แต่...การกระทำที่ผ่านมา เห็นแต่ข้อเสนอหรือการขอแก้ไขข้อบังคับบางข้อเพื่อกลุ่ม เพื่อพวกของตัวเท่านั้น เพื่อชิงความได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม ข้อเสนอบางเรื่องเป็นเรื่องที่มีสาระสำคัญที่มีผลต่อสมาชิก ความคงอยู่ ความมีประสิทธิภาพ ความมีเสถียรภาพต่อองค์กร เกี่ยวกับสิทธิ  เกี่ยวกับหลักการประชาธิปไตย เกี่ยวกับการเงิน ซึ่งควรจะมีการพิจารณาอภิปรายกันอย่างรอบคอบก่อนที่จะแก้ไข  แต่ข้อบังคับนั้นๆถูกนำมาเป็นวาระอื่นๆขอ "มติในที่ประชุมใหญ่" รับรองโดยสมาชิกเพียงหลักร้อยเท่านั้น

         สมาชิกที่ไปลงคะแนนเลือกตั้งแล้วก็ไปตามธุระของตัว  ไม่สนใจว่าเขาจะทำอะไรกันบ้าง ยกเว้นแฟนพันธุ์แท้ของแต่ละทีม  ที่รอดูท่าทีของฝ่ายตรงข้าม หรือเรียกว่า "คุมเชิง" กันไว้ การขาดความสนใจของสมาชิกส่วนใหญ่  เป็นการเปิดโอกาสให้มีการกระทำที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้น

         การเลือกตั้งกรรมการสหกรณ์ฯในวันที่ 24 นี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีทีมใดทีมหนึ่งส่ง "หน้าม้า" เสนอ "สิ่งแปลก สิ่งใหม่" ให้บรรดาสมาชิกได้ "เซอร์พไรซ์" กันหรือไม่   ถ้าสมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่สนใจประเด็นนี้  ระวังเถอะ พูดแล้วหวาดเสียว  เรื่องเงินๆทองๆนี่มันทำอะไรได้ทุกอย่าง  โปรดติดตาม....
        
          ล่าสุด...ทราบว่ามติในที่ประชุมให้จ่ายเงิน(ที่ควรจะนำไปเป็นเงินปันผล-เฉลี่ยคืน)ให้สมาชิก ชิวๆอีกคนละ 2,500- รวมเบี้ยประชุมอีก 500.- รวมเป็น 3,000.- เมากันเละเลยละ  วิธีใช้เงินสหกรณ์หาเสียงแบบนี้  สมาชิกคงดีใจกันเพียบเลย  แต่อนาคตจะเป็นอย่างไร  ก็ขอให้ช่วยกันภาวนาสวดมนต์กันไว้ให้ดีก็แล้วกัน.


********************

         วันที่ 18 มีนาคม 2554 เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของพี่ไพศาล ธวัชชัยนันท์ ครบ 23 ปีแล้ว  พีไพศาล เป็นผู้หนึ่งในการก่อตั้งสหกรณ์ขึ้นมาให้พวกเราได้พึ่งพิงกันทุกวันนี้  หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้ดวงวิญญาญพี่ไพศาลช่วยคุ้มครองสหกรณ์ฯอย่าให้มีคนไม่หวังดีเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ใดๆด้วยเถิด ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว



********************

เลือกตั้งกรรมการสหกรณ์ฯ

         ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

         ได้มาแล้วครับ รายชื่อผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ฯที่พวกเราสมาชิกทุกท่านมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ นำมาให้ผู้เกษียณได้ตรวจสอบ พิจารณากัน (ปีนี้ไม่รู้เป็นยังไง หาโปสเตอร์หาเสียงไม่ได้เลย ว่าจะเอานโยบายมาให้ผู้เกษียณดูกันบ้าง ก็ไม่มี ที่สหภาพ-สหกรณ์ฯ ยังไม่มีเลย สงสัยปิดลับ)

          ก็ดูกันให้ดีๆนะครับ  พวกเราก็ฝากความหวังกับเงินก้อนสุดท้าย ที่อยู่ในสหกรณ์ฯนี่แหละ  ผู้สมัครคนไหนที่มีใจเอื้ออาทร เห็นอกเห็นใจผู้ฝากเงินอย่างพวกเราบ้าง  หรือดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกทุกคนอย่างสุจริต รับผิดชอบก็ควรเลือกไว้เพื่อความมั่นคงนะครับ 

และทุกท่านรอดูผลการเลือกตั้งในหน้านี้นะครับ 
ผมจะรีบรายงานผลให้เร็วที่สุดที่สามารถจะทำได้



ดูรายชื่อผู้สมัครกันชัดๆหน่อย (สว.ตาไม่ค่อยดี)
มีผู้สมัครอยู่ 2 ทีมนะครับคือ
ทีมหมายเลข 1 - 7 และทีมหมายเลข 8 - 14
การเลือก สามารเลือกเบอร์ตามใจชอบได้ แต่ต้องไม่เกิน 7 เบอร์

หมายเลข  1  นายสนิท  ไซประเสริฐ               0000        คะแนน
หมายเลข  2  นายวิรัตน์  ยะก๊บ                       0000        คะแนน
หมายเลข  3  จ.อ.พิพัฒน์  วงษ์ฤทธิ์               0000         คะแนน
หมายเลข  4  นางรัตนาภรณ์  ยี่สุ่น                 0000         คะแนน
หมายเลข  5  นายมงคล  ใจชุ่ม                     0000         คะแนน
หมายเลข  6  นายประพงษ์  ทองทวี              0000         คะแนน
หมายเลข  7  นายประสงค์  บูชา                   0000         คะแนน

หมายเลข  8  นายไพบูลย์  แก้วเพทาย         0000         คะแนน
หมายเลข  9  นายประจวบ  คงเป็นสุข           0000         คะแนน
หมายเลข 10 นายสมาน  ขามเทศทอง         0000         คะแนน
หมายเลข 11 นายสุวรรณ  กาเซ็ม                0000         คะแนน
หมายเลข 12 นายวันลักษณ์ ชีวะถาวร          0000         คะแนน
หมายเลข 13 นายวีระ  แจ่มนาม                   0000         คะแนน
หมายเลข 14 นายบุญเลิศ  เด่นดี                 0000         คะแนน


"คลายเครียด"

          สำหรับผู้เกษียณ หรือผู้ที่กำลังจะเกษียณ โปรดศึกษาเทคโนโลยีไว้บ้างนะครับ  เดี๋ยวเขาจะหาว่าเชยเหมือนรูปข้างล่างนี้ อายเค้าแย่เลย



(ขอขอบคุณผู้ที่เมล์รูปนี้มาให้ แถมบอกว่ามอบให้ผู้เกษียณโดยเฉพาะ สงสัยจะส่งมาเยาะเย้ย? )
 

แล้วพบกันวันที่ 24 ก.พ. นะครับ

ใครที่ใช้ Facebook เชิญเป็นเพื่อนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
แจ้งข่าวคราวกันได้ที่
"ชุมชน คนเกษียณ" elderlyman08@gmail.com
ยินดีต้อนรับสมาชิกทุกเพศทุกวัยครับ



$$$$$$$$$$


ถึงเวลาหรือยัง

....ถึงเวลาหรือยัง ???....

        ก่อนที่สถาบันทางการเงินของประเทศไทยจะล่มสลายเมื่อปี พ.ศ.2540
       
        ก่อนหน้านั้นมีนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง มีสโลแกนว่า "เปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า"  ในเวลานั้นจะมีการซื้อขายที่ดินกันถี่มาก  ท้องไร่ท้องนามีราคาเป็นเงินเป็นทองไปหมด ไม่ว่าบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ นักเก็งกำไร ต่างนั่งรถตระเวณดูที่  ซื้อมาขายไป ใช้เวลาไม่เท่าไหร่ มีกำไรเป็นร้อยล้าน ต่างนั่งเครื่องบินไปกินปูขนตัวละพัน ตัวละหมื่นที่ฮ่องกงกันเป็นทิวแถว อาจารย์ นักธุรกิจ พ่อค้า อาซิ้มอาแป๊ะไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว  ไปนั่งตลาดหุ้นเล่นๆ วันๆก็ได้ค่ากับข้าวแล้วสี่ซ้าห้าพัน ชิวๆ
       

(ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในบทความ)
         เมื่อซื้อมาขายไป วนไปวนมาอยู่อย่างนี้ พักเดียว คนซื้อคนขายก็มีอยู่กลุ่มเดียว คือพวกเก็งกำไร  คนที่จะซื้อไปอยู่อาศัยหรือไปทำประโยชน์จริงไม่มี  มันก็เหมือนแชร์ลูกโซ่  เมื่อไม่มีคนใหม่ คนสุดท้ายก็ตาย (จำที่ดินที่ปึกเตียนได้ไหม นีคือชะตากรรมร่วมสมัย)

       ฟองสบู่แตกแล้ว.....

        แล้วทำไมสถาบันการเงินจึงล่มสลาย  ก็เพราะเงินที่หมุนเวียนเอามาปั่นกันนี้ มันเอามาจากธนาคาร จากสถาบันการเงินทั้งนั้น ไม่ใช่เงินของคุณพ่อคุณแม่มันหรอก และไอ้ธนาคาร โดยการใช้เส้นใช้สายการติดสินบน การร่วมมือกันหาผลประโยชน์ ตีราคาสินทรัพย์ให้สูงกว่าความเป็นจริง ถึงเวลาลูกหนี้เจ๊ง ธนาคารไปยึดมาตีราคาไว้ไร่ละ 10 ล้าน ราคาจริงไร่ละสามพัน อย่างนี้ไม่เจ๊งทนไหวหรือ มีนายธนาคารติดคุกให้เห็นบ้างเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศหมดแล้ว

       ย้อนมาดูสหกรณ์ออมทรัพย์ของเรา  หลายปีที่ผ่านมานี่จะมีข่าวความไม่โปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ของเราบางส่วนมาอย่างต่อเนื่อง  เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งทีก็ถูกนำมาเป็นประเด็นในการหาเสียงที  ใครถูกใครผิด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สมาชิกแต่ละท่านจะเป็นผู้ใช้วิจารณาญาณเอง ไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะเขียนในวันนี้

       ที่ผมจะเสนอความเห็นในวันนี้คือ ทำไมเราไม่แก้ที่ต้นเหตุ

       ต้นเหตุมันเกิดจากอะไร   มันเกิดจากกรรมการสหกรณ์ที่ทำหน้าที่ประเมินราคาที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่สมาชิกนำมาค้ำประกันเงินกู้ใช่หรือไม่  อันนี้ถ้าประเมินได้ใกล้เคียงกับราคาจริง  ถ้าสมาชิกไม่มีกำลังส่ง สหกรณ์ยึดมา พูดง่ายๆก็ว่าไม่ขาดทุน  แต่ถ้าประเมินสูงกว่าราคาจริง(เพื่อช่วยกัน) แต่สมาชิกสามารถส่งค่างวดได้ตลอดรอดฝั่ง ก็ไม่มีปัญหาอะไร

        ไอ้ที่มีปํญหา  มันอยู่ที่ผู้ประเมินก็ประเมินสูงกว่าราคาจริง(ค่อนข้างมาก) ส่วนผู้กู้ก็ไม่มีกำลังพอจ่าย  จะโดยรู้เห็นเป็นใจกันหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง  ถึงเวลาผู้กู้ไม่มีปัญญาจ่าย  สินทรัพย์ก็ต่ำกว่าราคาตลาด  สหกรณ์ก็เสียหายซิครับ เมื่อมีหนี้สูญเกิดขึ้นเงินปันผลมันก็น้อยลงน่ะซี  กรรมการก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร  ดูอย่างที่เจ้าหน้าที่โกงเงินไป  5 ล้าน (ถ้าจำไม่ผิด) ก็ไม่เห็นจะมีความคืบหน้าอย่างไร ก็คงเข้าบัญชีหนี้สูญตามเคย ไม่ต้องมีใครต้องรับผิดชอบ แม้แต่เจ้าหน้าที่ประจำ (ถ้ามีการแถลงความคืบหน้าแล้ว โดยผมไม่ทราบ ก็อยากขอทราบด้วย)

        เมื่อครั้งที่ผมเคยเป็นกรรมการสหกรณ์เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ขณะนั้นก็มีการพูดกันถึงเรื่องว่ากรรมการบางคนไปตรวจที่แล้วได้ผลประโยชน์ หรือไม่ก็ไปซูเอี๋ย(รู้กัน)ตีราคาให้สูงกว่าราคาจริง  แต่ก็ยังไม่มีเรื่องเสียหายนัก ผมก็เสนอว่า เพื่อความโปร่งใส ควรจ้างบริษัทประเมินสินทรัพย์ให้เป็นผู้ประเมิน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสหกรณ์  แต่เหตุผลของผมต้องตกไป ด้วยเหตุว่า สมาชิกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตีราคาประเมิณสูงกว่าที่กรรมการประเมิน  อีกประการคือสมาชิกส่วนใหญ่อยากจะให้ตีเกินๆไว้หน่อย เผื่อขาดสภาพคล่อง ถ้าซื้อที่จริงปลูกบ้านจริงอยู่อาศัยจริง ไม่มีเจตนาซ่อนเร้นใดๆ มีรายได้พอส่งก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร  แต่อีกเหตุผลหนึ่งซึ่งไม่มีใครพูด  และผมก็ไม่อยากพูด  คือค่าธรรมเนียมในการตรวจที่ ขณะนั้น 300 หรือ 500 บาท ผมจำไม่ได้เพราะผมไม่เคยตรวจที่(มีคนมารับโควต้าของผมไปด้วยความยินดี) วันหนึ่งตรวจอย่างน้อยวันละ 5-6 ราย คิดดูได้วันละเท่าไหร่ บางคนตรวจทั้งเสาร์อาทิตย์ (บริการสมาชิกที่อยู่บ้านในวันหยุด) ผลประโยชน์ตรงนี้แหละครับ ที่อาจเป็นอุปสรรคในการเปลี่ยนแปลง หรือที่ร่วมสมัยในขณะนี้คือ "Change" (ที่ทีมผู้สมัครทีมหนึ่งใช้เป็นสโลแกนในการหาเสียงในการเลือกตั้งกรรมการสหภาพฯ) แต่การที่จะ Change อะไร มันต้องมี "Chance" คือต้องมีโอกาสมีจังหวะมีหนทางที่จะเปลี่ยนได้  ถ้ายังไม่มี Chance ก็จะยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ (ผลประโยชน์ตรงนี้ถ้ากรรมการท่านใดเห็นว่าไม่จริง โปรดบอกผมได้ ผมจะแก้ข่าวให้)  และในเวลานั้น ก็ยังไม่มีการกระทำที่ "ครึกโครม" เหมือนในเวลานี้ จึงยังไม่มีการ "Change"

        สหกรณ์ฯของเราขณะนี้ บริหารเงินเป็นหมื่นล้าน  ถึงเวลาหรือยังที่จะปรับเปลี่ยนการบริหารงานให้สากลขึ้น ให้ทันสมัยขึ้น  ใช้ระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลกันให้เกิดความโปร่งใส  การบริหารเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันความเสียงแค่ไหนถึงจะยอมรับได้ ผมไม่เคยเห็นทีมไหนหาเสียงว่าจะปรับปรุงการบริหารงานให้โปร่งใส ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จะแสวงหาการลงทุนที่มั่นคง มีผลตอบแทนที่เหมาะสม ฯลฯ  กรรมการที่เลือกเข้ามาก็ควรจะมาใช้สมองคิดพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้า  ตรวจสอบการบริหารภายในไม่ให้เกิดช่องว่างให้ทุจริตได้อีก  ไม่ใช่เอาเวลาไปวิ่งตรวจที่  นับวันต่อจากนี้ไป สหกรณ์ก็คงทำได้แค่เอาเงินฝากมาออกเงินกู้กินส่วนต่างไปวันๆ  (ป่านนี้พวกเพื่อนๆนักเลือกตั้งคงด่าผมกันตรึมแล้ว)

        ก็เป็นความเห็นที่ฝากไว้ให้คนรุ่นใหม่ลองคิดดูว่าถึงเวลาจะ "CHANGE" กันหรือยัง  ถ้าเห็นด้วยก็ช่วยกันขยายผลผลักดันต่อไป  ถ้าไม่เห็นด้วยก็นึกว่าเสียเวลานั่งฟังคนแก่บ่นให้ฟังก็แล้วกัน  คนเกษียณแล้วก็ทำได้แค่อาศัยสหกรณ์เป็นที่พักเงิน(ใช้คำว่า "พักเงิน" เพราะเงินอันน้อยนิด กับดอกเบี้ยที่นิดหน่อย ไม่สามารถนำมายังชีพได้เพียงพอ) และก็เบิกกินไปแต่ละเดือนจนกว่าจะหมดก็ต้องหมดสมาชิกภาพไปโดยปริยาย  ยกเว้นคนเงินถุงเงินถัง  ที่บ่นให้ฟังนี่ไม่ใช่เป็นห่วงเงินของตัวเอง มีอยู่ไม่กี่ตังค์หรอก  แต่อนาคตของสหกรณ์ฯต้องเป็นที่พึ่งอันมั่นคงของสมาชิกตลอดไป


        ถึงเวลาหรือยังที่เราจะใช้มืออาชีพเป็นผู้ประเมินสินทรัพย์ เพื่อความโปร่งใส

        การใช้มืออาชีพนี้  มิใช่เป็นการปิดกั้น สมาชิกที่มีความจำเป็นหรือมีความเดือดร้อน  แต่การช่วยเหลือสมาชิกที่อยู่นอกเหนือกติกานี้ ก็ควรมีคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณารับผิดชอบโดยรอบคอบเป็นรายๆไป เพื่อความโปร่งใส และเพื่อสมาชิกไว้วางใจได้

        หรือเราจะปล่อยให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัย์การไฟฟ้านครหลวงฯได้ลุ้นกับความโปร่งใสของกรรมการในแต่ละปีๆกันต่อไป  เมื่อแก้ที่คนไม่ได้ ก็ควรต้องแก้ที่ระบบ
 
        การเขียนบทความนี้มิได้มีเจตนาจะให้เป็นคุณเป็นโทษต่อผู้ใด  เพราะแต่ละคนก็รู้จักชอบพอกันทั้งนั้น  วัตถุประสงค์เพียงต้องการเสนอวิธีแก้ปัญหาและการป้องกันตามหลักการบริหารเท่านั้น



**********************


       ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายของแต่ละทีม นำมาให้ผู้เกษียณได้พิจารณา  หากทีมใดมีนโยบายนี้อยู่แล้ว ก็ควรสนับสนุน  คิดว่าอาทิตย์หน้าต้องไปหามาให้ดูกันเสียหน่อย

(โปรดติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกต่อไป แต่จะพยายามไม่ให้เป็นคุณป็นเป็นโทษต่อผู้สมัครผู้ใดผู้หนึ่ง)















*************************















     

คั่นรายการ

ยังให้บริการเสียงเพลงเหมือนเดิม.....

         เมื่อวันพุธที่ 3 กุมภาฯ  ได้ไปใช้บริการ ที่ ร.พ. กฟน. สามเสน ก็ยังได้มีโอกาส ได้นั่งฟังเพลงเพราะๆจากแผนกเวชศาสตร์และป้องกันกายภาพบำบัดเช่นเดิม  โดยมีผู้รักในเสียงเพลงมาร่วมขับกล่อมให้ผู้มาใช้บริการตลอดเวลา  จะว่าเป็นนักร้องสมัครเล่นก็ไม่กล้า  เพราะแต่ละท่านเข้าขั้นมืออาชีพทั้งนั้น

        และวันนี้เป็นวันตรุษจีนพอดี ผู้จัดจึงมีดอกไม้เล็กๆไว้มอบให้ผู้ที่อาสาร้องเพลงทุกท่านด้วย
       
        ใครไม่เคยไปหาหมอวันพุธ  ลองไปดูนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง  หรือใครรู้ตัวว่ามีพรสวรรค์ทางนี้ จะไปร่วมแจมด้วยทางผู้จัดก็ยินดีนะครับ







เบ็ญจะ จิตต์ชื่นโชติ
         งานนี้ได้พบ พี่เบ็ญจะ จิตต์ชื่นโชติ  อดีตกรรมการสหภาพฯรุ่นแรกๆ นั่งฟังเพลงอยู่ด้วย  สอบถามได้ความว่า มาทำกายภาพบำบัด หัวเข่าไม่ค่อยดี  และเสริมต่อว่า "กายภาพบำบัด" นี่ดีจัง  ทำกายภาพเสร็จ ยังแถมร้องเพลงให้ฟังอีก  เสร็จแล้วเลยยังไม่ยอมกลับบ้าน ขอนั่งฟังเพลงต่อ (แหม..พี่ นิสัยตั้งแต่หนุ่มๆไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ)

        ปีนี้ 79 แล้ว พรรคพวกเพื่อนฝูง น้องนุ่ง ที่คิดถึงกัน นัดเจอกันได้ อายุมากแล้วลิมิตแค่ไม่เกินกั๊ก (เอิ๊ก...)




บุญเลิศ เด่นดี
 คั่นเวลา ขอพูดถึงคนกันเองหน่อย

คนเกษียณแล้ว  โอกาสที่จะติดต่อสื่อสารมันก็ยาก  ต่างคนต่างอยู่บ้าน  อินเตอร์เน็ตก็ไม่ค่อยจะถนัดกัน จะได้แค่ไหน ไม่ว่ากันครับ

เลือกตั้งกรรมการสหกรณ์งวดนี้  มีผู้เกษียณสมัครด้วยคนหนึ่ง คือคุณบุญเลิศ เด่นดี (หมายเลข 14)
คุณบุญเลิศ เคยเป็นกรรมการสหภาพฯมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ และก็เคยเป็นประธานสหภาพฯ เป็นอะไรต่อมิอะไรต่างๆมามากมาย แทบจะทุกองค์กรที่เป็นส่วนรวมมาแล้ว  ครั้งนี้ก็ขอเป็นตัวแทนผู้เกษียณและของสมาชิกทุกท่าน  คนเสียงดังฟังชัดคนนี้ขอรับรองว่าจะดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกอย่างเต็มที่

       ในฐานะ "ชุมชนคนเกษียณ" เป็นสื่อกลางให้คนเกษียณ ก็ขอแจ้งข่าวนี้มายังผู้เกษียณทั้งหลายว่า ถ้าเราอยากมีตัวแทนเพื่อเข้าไปดูแลเสนอแนะ เป็นปากเป็นเสียงของผู้เกษียณบ้าง ก็ช่วยเลือกกันหน่อย  สมาชิกผู้เกษียณมีถึง 20 - 30 เปอร์เซ็นต์ แต่เราไม่มีตัวแทนเลย  และก็ไม่ใช่แต่ผู้เกษียณในปัจจุบัน  ถ้ามีอะไรดีขึ้น  ผู้เกษียณรุ่นต่อๆไปก็จะได้รับผลนี้ด้วย  การกำกับดูแลที่ดีก็จะทำให้สมาชิกทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน

        สำหรับผู้สมัครท่านอื่นๆ ผมจะต้องไปหาใบหาเสียงของผู้สมัครทั้งหมดมาแจ้งให้ผู้เกษียณทราบต่อไป รอหน่อยนะครับ








**********************