มาแล้วครับ

กลับมาพบกันอีก

ต้องขออภัยพี่ๆเพื่อนๆเป็นอย่างยิ่ง ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนที่ blog นี้ แล้วไม่มีอะไรคืบหน้า หรือที่เค้าเรียกกันว่า update เลยเป็นเวลาเดือนกว่า


เดิมทีเดียวก็ตั้งใจว่าจะให้พี่ๆเพื่อนๆได้พักสมองสักพัก หลังจากได้รับข้อมูลข่าวสารในช่วงหาเสียงเลือกตั้งกรรมการสหภาพฯต่อเนื่องมาถึงกรรมการสหกรณ์ฯ จนคิดว่าแต่ละท่านคงมึนตึ้บกับข้อมูลข่าวสารของแต่ละฝ่ายจนเต็มสมอง  และก็มีบางท่านแสดงความคิดเห็นมาที่ผมบ้าง ซึ่งคิดว่าน่าจะนำมาพูดคุยกันฟังเมื่อโอกาสอำนวย  แต่จะไม่กระทำในลักษณะ "ไม้ล้มข้ามได้ฯ" 


คำโบราณเค้าว่า "ไม้ล้ม ข้ามได้ คนล้ม อย่าข้าม" เพราะคนล้มแล้วมันลุกได้ กลัวว่ามันจะลุกมาแก้แค้นเอา แต่ผมว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ผมว่าคนมันมีหัวจิตหัวใจ เมื่อเขาล้ม เขาก็เจ็บอยู่แล้ว เรายังไปข้ามให้เขาช้ำใจหนักเข้าไปอีก มันทารุณกันเกินไป จึงไม่ควรทำ แต่ถ้ากลัวว่าเขาจะมาแก้แค้นนั้น อย่าไปข้าม ต้องตื้บให้ไม่มีโอกาสลุกขึ้นมาอีก (อันหลังนี่พูดเล่นนะครับ) แต่จริงๆแล้ว ไม้ล้มก็ไม่ควรข้าม มันไม่ปลอดภัย มันอาจข้ามไม่พ้น หรือลื่นล้มเอาได้  อีกอย่าง อย่าลืมว่า พวกเราไม่ใช่ "ใครที่ไหน" เราเป็นชาว "กฟน." เหมือนๆกัน เอาเมื่อถึงวันเกษียณ เจอหน้าเจอตากัน จะได้ทักทายกันด้วยความสนิทใจดีกว่า เวลามันเดินเร็วนะครับ  อีกแป๊บเดียวก็จะเกษียณกันอีกแล้ว


ตั้งใจว่าหลังสงกรานต์จะหาเรื่องอะไรๆมาคุยเรื่อยๆเปื่อยๆไป  ก็บังเอิญมีแขกมาเยี่ยมก็ "คุณหวัด" นั่นแหละครับ กินยาอยู่สอง-สามอาทิตย์ก็ไม่หาย หมดยาไปสามชุด ไปหาหมออีกที หมอบอกว่าเป็นภูมิแพ้ เรียกให้มัน "ผู้ดี" หน่อย แต่สมัยก่อนเรียกโรค "หอบหืด" นั่นแหละ (ฟังแล้วมันน่ากลัว) คือแต่ละคนมันแพ้อะไรไม่เหมือนกัน บางคนแพ้อากาศ แพ้ฝุ่น แพ้กลิ่น แต่คงไม่ใช่แพ้เลือกตั้ง เพราะผมไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งกะเขา นี่ก็ยังนั่งไอโครกๆอยู่เลย จะออกไปไหนก็ไม่กล้า กลัวคนเค้าจะหาว่าเป็นวรรณโรค(โรคของชนชั้น) จะมาว่าเราเป็น "ไพร่" (พวกเดียวกับณัฐวุฒิ) ก็ไม่ได้นะ หลวงพ่อคูณยังเป็นเลย


นี่แหละ เมื่ออายุมันมากเข้า ร่างกายมันอ่อนแอลง โรคภัยไข้เจ็บก็ขยันกันมาเยี่ยมมาเยือนกันจริง เดี๋ยวโรคนั้นมา เดี๋ยวโรคนี้มา ส่วนพรรคพวกเพื่อนฝูงก็ค่อยๆหายหน้าหายตาไป มันก็คงไปไหนไม่ค่อยไหวเหมือนกันแหละ ถ้าจะเจอกันก็ที่สามเสนนั่นแหละ ที่นัดพบประจำ




หากอยากเจอเพื่อน เชิญมาที่นี่


ระหว่างที่่ไม่ค่อยสบาย นอนอยู่บ้าน(ตัวเอง) ก็ได้รับหนังสือข่าวจาก ฌฟน.(การฌาปณกิจสงเคราะห์พนักงานการไฟฟ้านครหลวง) พอดี เลยรีบเปิดอ่านดู เห็นว่าไม่มีชื่อตัวเองก็โล่งใจไปที  ปีนี้ก็มี 143 ราย เสียชีวิตด้วยอาการต่างๆกัน หลายคนก็เคยรู้จักสนิทสนม เคยร่วมงานกันมา เมื่อต่างโยกย้ายงานและเกษียณกันไป ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันอีก ถ้าลูกเมียไม่รู้จักกันก็จะไม่รู้กันเลย มารู้อีกทีก็ที่ "ข่าว ฌฟน." นี่แหละ ตรงนี้ก็ไม่ทราบว่าจะมีใครช่วยเป็นสื่อกลางให้ได้บ้าง โดยเฉพาะสหกรณ์-สหภาพฯ ที่จะทราบก่อนว่าสมาชิกคนใดเสียชีวิต และก็มีสื่อ(website)อยู่กะมือ ผมอยากทำให้ก็ไม่มีเครื่องมือ-ข้อมูล-ไม่มีสื่อที่กว้างขวาง




นอกจากที่ได้รับ "ข่าว ฌฟน." มา ก็ได้รับโทรศัพท์จากเด็กสาวคนหนึ่ง โทรมาที่ผม ขอทราบหมายเลขโทรศัพท์ของ ฌฟน. ผมก็ถามว่าจะติดต่อเรื่องอะไรหรือ เขาบอกว่าได้ฝากเพื่อนส่งเงินค่าฌาปณกิจของลุงให้ แต่จนเวลาล่วงมาสองเดือนแล้ว ยังไม่ได้รับใบเสร็จ สำเนาส่งเงินก็หาไม่พบ เกรงว่าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวลุงจะหมดสมาชิกภาพ ผมก็บอกให้ดูในหนังสือของ ฌฟน.ที่ส่งให้ ในนั้นจะมีหมายเลขโทรศัพท์ เขาบอกเขาไม่มี(อาจจะไม่ได้เก็บไว้ หรือตัวไม่ได้อยู่ที่บ้าน) ผมจึงมาหา "ข่าว ฌฟน." แล้วบอกเบอร์ให้ แล้วถามไปหน่อยว่าแล้วได้เบอร์ผมมาจากไหน  เขาบอกว่า "เซอร์จ" จากคอมพิวเตอร์เจอ blog ของคุณลุง จึงโทรมาถาม (อันนี้เป็นความภูมิใจนิดๆ ที่ Blog เรามีคนค้นพบเหมือนกัน) ในที่สุดเด็กสาวคนนั้นก็โทรกลับมาอีกครั้ง ว่าติดต่อเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่แนะนำให้ส่งเงินไปใหม่ก่อน เพื่อรักษาสิทธิ์ ส่วนเงินที่ว่าส่งไปแล้วจะตรวจสอบต่อไป  ก็ขอชมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ให้คำแนะนำ และก็เด็กคนนี้ที่มีมารยาทที่ดี ที่โทรมาแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ และกล่าวขอบคุณ ปกติแล้วเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีอย่างนี้หรอก  วันนั้นอาการป่วยเลยดีขึ้นหน่อย รู้สึกว่าตัวเองยังมีประโยชน์ต่อผู้อื่นอยู่บ้าง


เรื่องการส่งค่าฌาปณกิจนี่ ผมจะเตือนเพื่อนๆ(ตัวเองด้วย)อยู่เสมอ ให้สั่งลูกสั่งหลานไว้ บางทีเราแก่มากๆเข้ามันหลงลืมไปหมด อุตส่าห์ส่งมาตั้งแต่หนุ่ม พอจะได้ใช้สิทธิ์กลับหมดสิทธิ์เเสียนี่ บางคนหมดสมาชิกภาพไปอย่างน่าเสียดาย บางคนบอกไม่มีเงินส่งก็บอกลูกหลานให้มันส่ง แล้วก็ยกให้มันไป แต่อย่าแอบไปยกให้เมียน้อยเสียล่ะเดี๋ยวผีจะไม่ได้เผา  แต่เดี๋ยวนี้ ฌฟน.เขาก็ดี มีการแจ้งเตือนและก็ยังมีเวลายผ่อนผันบ้าง ก็นับว่าเป็นคุณแก่ สว.ทั้งหลาย


พูดถึงเรื่อง ฌฟน.แล้วขอแถมอีกนิดเถอะครับ  ตามระเบียบที่ว่าเวลาเราชำระเงินค่าฌาปณกิจเข้าบัญชีแล้ว ให้ส่งสำเนาใบฝากเงินของธนาคารไปให้ ฌฟน. ทาง fax นั้น ผมขอเพิ่มให้ส่งทาง e-mail ได้อีกทางได้หรือไม่ เพราะ fax เดี๋ยวนี้ก็หาที่ส่งยาก เพราะเราไม่ได้ทำงานแล้วหรือไม่มีลูกหลานที่จะไหว้วานได้ ต้องตระเวณหาร้าน ส่งทีก็อีก 10 บาท ค่ารถอีกต่างหาก แต่เราอยู่บ้านมีคอมมีสแกนเนอร์อยู่แล้ว เราสามารถส่งได้ทันที คุณก็ดูข้อมูลได้เช่นกัน  แต่เมื่อผมโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอส่งทางเมล์บางคนก็ยอมให้ และให้ address มา (ก็ขอขอบคุณท่านนี้ด้วย) แต่บางคนก็ไม่ยอม(ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาทำตามระเบียบ) อันนี้ฝากผู้เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาด้วยครับ ถึงแม้อาจจะยังมีคนใช้ไม่มาก ก็น่าจะเป็นทางเลือกไว้


เอ...ทำไมวันนี้คุยแต่เรื่องฌาปณกิจนะเนี่ย ชักสงสัย


ก็คงเบาๆแค่นี้ก่อนสำหรับวันนี้ เนื่องจากยังมึนๆอยู่  ท่านใดอยากแสดงความเห็นอะไรก็เชิญนะครับ สามารถติดต่อได้ทุกทาง ใครสะดวกทางโทรศัพท์ก็โทรมาคุยกันได้   ตอนนี้ผมเหมือนนั่งคุยคนเดียวในป่า ไม่รู้ว่าผู้ฟังเป็นใครบ้าง แก่-หนุ่ม-สาว หรือมีความคิดอย่างไร คุยคนเดียว ซักวันก็หมดไฟ ก็คงต้องเลิกคุย  แต่ขออย่างนะครับขอคุยอย่างสร้างสรรหน่อย ประเภทเคียดแค้นใครมาระบายอารมณ์ ผมคงรับไม่ไหวแล้ว บอกตรงๆ มันแก่ลง(หรือแก่ขึ้น?) เฉพาะความแค้นส่วนของผมมันก็เยอะพออยู่แล้ว ยังไม่รู้จะไปปล่อยที่ไหนเลย


อีกประการ ผมขอเรียนชี้แจงอีกครั้งว่า Blog นี้ ไม่มีความเกี่ยวพันกับ "ชมรมผู้เกษียณ ชสอฟ " ที่มีพี่วิเชียร ปั้นศรี เป็นประธานนะครับ มันเป็น Blog ส่วนตัวของผม ทุกการกระทำใน Blog นี้จึงเป็นความรับผิดชอบของผมแต่ผู้เดียว ทาง "ชมรมฯ" ไม่เกี่ยวข้องด้วย เป็นแต่เพียงว่าผมเป็นกรรมการคนหนึ่งของ "ชมรมฯ" หาก "ชมรมฯ" มีข่าวสารที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก ผมก็จะช่วยเผยแพร่ให้  ทรรศนะต่างในที่นี้เป็นทรรศนะของผมซึ่ง "ชมรมฯ"อาจไม่เห็นด้วยก็ได้นะครับ เดี๋ยวบางท่านไม่พอใจจะไปต่อว่าชมรมฯ เขาไม่รับผิดชอบนะครับ




สุดท้ายนี้ เป็นข้อความที่ผมได้รับมาทางอีเมล์ตั้งแต่วันแรงงานคือวันที่ 1 พฤษภาคมแล้ว (แต่อย่างที่บอกแล้วว่าผมป่วยจึงยังไม่ได้นำมาเผยแพร่) ส่งมาจากคุณประจวบ คงเป็นสุข ประธานสหภาพฯ (คิดว่าคงไม่ใช่ใครปลอมชื่อส่งมาล้อเล่นนะครับ เพราะไม่คิดว่าท่านประธานจะให้เกียร์ติขนาดนี้) แจ้งถึงความคืบหน้า ที่คุณประจวบ ได้มีนโยบายเมื่อคราวหาเสียงเข้ารับการเลือกตั้งไว้ ซึ่งมีนโยบายสำหรับผู้เกษียณไว้ 2 ข้อ (ผมเคยแจ้งให้พวกเราทราบแล้ว)


ผมนำข่าวนี้มาแจ้งให้ทราบเพื่อช่วยกันอีกแรงนอกจากสหภาพฯ สมาชิกที่ยังทำงานอยู่ก็ควรช่วยกันผลักดัน เพราะสักว้นหนึ่งท่านก็ต้องเกษียณ เมื่อท่านยังอยู่ในงานท่านยังมีพลัง แต่ถ้าเกษียณไปแล้ว ท่านพูดอะไรก็จะไม่มีใครฟัง


ขอขอบคุณท่านประธานสหภาพฯที่ท่านทำตามคำมั่นสัญญา ถึงแม้ผู้เกษียณจะไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงให้ท่านก็ตาม 


ขอบคุณแทนผู้เกษียณทุกท่านครับ


ต่อไปนี้คือข้อความที่ผมได้รับมา





ไม่ระบุชื่อ ได้ฝากความคิดเห็นไว้ที่บทความของคุณ "คณะกรรมการชมรมผู้เกษียณฯ": 

สวัสดีครับพี่ๆทุกๆท่าน
ผมติดตามการรายงานข่าวประชาสัมพันธ์ ของชมรมผู้เกษียณ สอฟ.ผมมีความมั่นใจมาก ที่มี พี่พิศดาร ทวีโภค จัดทำบล็อกของชมรมฯ เพื่อเป็นสื่อกลาง


ตามที่สหภาพฯ ได้มีการยื่นข้อเรียกให้ กฟน.ปรับปรุงสภาพการจ้าง เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2545 ที่ผ่านมา รวม 7 ข้อ และมีสวัสดิการเกี่ยวกับผู้เกษียณ 2 ข้อ ผมขอให้ท่านกรรมการชมรมผู้เกษียณทั้ง 2 ชมรม ช่วยร่วมกันเป็นกำลังผลักดันให้ข้อเรียกร้องนโยบายของสหภาพฯให้สำเร็จเป็นไปตามนโยบายของสหภาพฯโดยเร็ว


ประจวบ คงเป็นสุข 






เขียนโดย ไม่ระบุชื่อ ถึง ชุมชนคนเกษียณ เวลา 1 พฤษภาคม 2554, 21:42


ครับ...ขอจบด้วยข้อความจากท่านประธานสหภาพฯก็แล้วกัน เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกแน่นอน...


สวัสดีครับ..... 










*******************