ยินดีต้อนรับผู้เกษียณ ปี 2555





          เมื่อเยาว์วัย เราอยากจะโตเร็วๆ เพื่อจะได้เที่ยวเล่น ทำอะไรได้เป็นอิสระมากขึ้น แต่ดูเวลามันช่างเชื่องช้าเสียจริงๆ กว่าจะผ่านไปแต่ละปี คอยดูกระจกดูความเปลี่ยนแปลงของหน้าตาอยู่ตลอดเวลาว่าใกล้จะเป็นผู้ใหญ่กับเขาหรือยัง

        แต่เมื่อผ่านวัยกลางคนไปแล้ว เวลามันดูเหมือนจะผ่านไปด้วยความรวดเร็วเสียเหลือเกิน บางคนเริ่มต้นด้วยการมีผมหงอกแซมมาให้เห็นเพียงเส้นสองเส้น เผลอเดี๋ยวเดียว ไม่กีปี มันก็จะเพิ่มขึ้นด้วยความรวดเร็ว บางคนผมเคยดกดำ มันก็จะค่อยบางเบาร่วงหล่นลงทุกวันๆ  สายตาที่เคยแจ่มใสชัดเจน ตอนนี้เวลาอ่านหนังสือพิมพ์ก็จะต้องเหยียดแขนที่ถือหนังสือห่างไกลตัวออกไปทุกที....

        ช่วงนี้แหละที่เวลาดูเหมือนมันจะวิ่งผ่านไปด้วยความรวดเร็ว ส่องกระจกดูสภาพตัวเองทีไร  รู้สึกว่าจะพบกับความเปลี่ยนแปลงทุกครั้งไป  ไม่เหมือนเมื่อตอนวัยเด็ก วัยรุ่น ส่องกระจกทีไรก็เห็นแต่ความเติบโต เห็นแต่ความเต่งตึง เด็กผู้ขายก็เริ่มมีหนวดมีเครามีกล้ามเนื้อมีฃิกแพ็ก เด็กผู้หญิงก็เริ่มมีอกมีเอวมีโค้งมีเว้าตามสรีระของผู้หญิง.....เมื่อเราส่องกระจกตอนนี้ หนวดเคราที่เคยเขียวครึ้ม ตอนนี้มันจะหรอมแหรม มีหงอกบ้างมากน้อยแตกต่างกันไป เอวที่เคยมีไว้รัดเข็มขัดก็ไม่รู้หายไปไหน ไอ้ซิกแพ็คที่เคยมี มันเปลี่ยนเป็นฃิกอินวัน คือมันไปรวมกันเหลือแพ็คเดียวโดดๆฃะนี่ ตามอย่างที่โฆษณาสินค้าเดี๋ยวนี้เลย แถมเป็นแพ็คใหญ่(ที่ไม่พึงประสงค์)เสียด้วย

        นี่แหละครับเขาเรียกว่าสังขาร   กาลเวลามันเดินไป ร่างกายเราก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

        เผลอแพลบเดี๋ยวก็จะถึงเดือนกันยาฯอีกแล้ว เดือนที่ผู้ที่มีอายุหกสิบปี หรือเกินกว่านั้นไม่เกินหนึ่งปี จะได้รับการพักผ่อนตามระเบียบกฎเกณฑ์ที่วางไว้ ก็ถือว่าเป็นการยุติบทบาทในหน้าที่การงานที่แต่ละคนรับผิดชอบอยู่
ต่อไปนี้ใครมีงานอดิเรกอะไรหรือมีอาชีพส่วนตัวอะไร ก็รับผิดชอบไปตามนั้น ชีวิตประจำวันก็จะต้องจัดการกันใหม่ วันๆจะทำอะไรบ้าง ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน

        สิ่งสำคัญที่ผู้เกษียณจะต้องคำนึงถึงต่อไปนี้ก็คือ สุขภาพกับเงินที่จะต้องใช้เลี้ยงชีพยามเราไม่มีรายได้แล้ว ถ้าสุขภาพดีและมีเงินที่จะใช้ยังชีพไปตลอดชีวิต แค่นี้ก็เป็นหลักประกันว่าเราสามารถอยู่อย่างไม่ลำบากทุกข์ร้อนนัก ถ้ามีมากหน่อยก็สะดวกสบายหน่อยกินดีอยู่ดีหน่อย ถ้ามีน้อยก็ระมัดระวังใช้จ่ายอย่างประหยัดหน่อย คิดว่าก็คงอยู่ได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ  ในภาวะเศรษฐกิจเช่นปัจจุบันนี้ ค่าของเงินมันมีความเสี่ยงในการลดค่าลงตามภาวะเงินเฟื้อสูงมาก นโยบายประชานิยมก็มีส่วนทำให้เงินเฟื้อสูงขึ้นเรื่อยๆ(เงินออกมาสู่ตลาดมากขึ้น ค่าของเงินก็จะตกลง) เงินพันบาทในวันนี้ อีกสิบปีข้างหน้าจะเหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ อัตราดอกเบี้ยที่เรารับจากสหกรณ์ฯก็เพียงแต่ประคองให้สูสีกับอัตราเงินเฟื้อเท่านั้น ดังนั้นดอกเบี้ยที่เรารับมาก็เพียงช่วยประคองไม่ให้เงินของเราลดค่าถดถอยไปกว่าเดิมเท่านั้น

        ก็ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆน้องๆที่จะได้หยุดพักกายใจกันเสียทีในปีนี้ ได้ปลดปล่อยภาระที่ผ่านมา ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดี แข็งแรง มีเงินใช้ไร้โรคาทุกท่านครับ ท่านที่กำลังเดินสายรับเลี้ยงอำลาอาลัยกัน ก็ระมัดระวังสุขภาพหน่อยนะครับ หลังจากนี้ไปเจ็บป่วยขึ้นมา ไฟฟ้าไม่จ่ายให้แล้วนะครับ

        ลากันวันนี้ด้วยภาพที่นำมาจากเฟฃบุค ลองอ่านดูครับ....
        ผมว่าข้อแรกไม่ค่อยน่ากลัวหรอกครับ  อย่างน้อยลูกหลานก็ยังได้รับไป  ข้อหลังนี่สิ ขออย่าได้เจอเลย จะโดนลูกหลานไล่ส่งซ้ำซะอีกน่ะซี












^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

ท่านที่ใช้เฟซบุค ไปแอดกันได้นะครับที่ สองวัย ใจตรงกัน

หรือคลิ๊กที่คำว่า ชุมชน คนเกษียณ บนสุดซ้ายมือของหน้าที่ท่านอ่านอยู่นี่ได้เลยครับ

*********

No Response to " "

แสดงความคิดเห็น