เมื่อความตายมาทักทาย

เมื่อความตายมาทักทาย

กว่าจะอยู่มาจนได้ชื่อว่า "ผู้สูงวัย" "ผู้อาวุโส" "ผู้สูงอายุ" หรือ "คนแก่ - ไอ้แก่" จะเรียกอะไรก็แล้วแต่.... มันใช่เรื่องง่ายๆที่กว่าจะได้ชื่อนี้มา
.
ที่ว่ามันไม่ง่าย
เพราะกว่าเราจะฟันฝ่าจนผ่านอายุ 60 - 70 หรือ 80 ปีนั้น มันจะต้องผ่านอะไรๆมามากมาย เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ผ่านทุกข์ผ่านสุข ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย จนกว่าจะมาถึงวันนี้
.
สมัยเด็กรุ่นเบบี้บูม คือเด็กรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เด็กรุ่นนี้เกิดมาในยุคลำบากยากเข็ญอันเกิดจากภาวะสงคราม
ทุกสิ่งทุกอย่างขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสื้อผ้าอาหาร ยารักษาโรค และโดยเฉพาะสิ่งจำเป็นสำหรับเด็ก คือนมสำหรับเด็กทารก พ่่อแม่บางคนนำเอานมข้นหวาน หรือที่เรียกว่านมกระป๋อง มาชงใส่ขวดนมให้ลูกกิน ซึ่งนมชนิดนี้ไม่มีคุณค่าทางอาหารใดๆ นอกจากน้ำตาล
.
นอกจากขาดแคลนเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม มุ้งสำหรับกันยุง ผ้าห่มกันหนาว ซึ่งหาได้ยากและมีราคาแพงมาก สิ่งสำคัญสำหรับชีวิต คือยารักษาโรคที่จำเป็นมากสำหรับเด็กๆที่เกิดการเจ็บป่วย ทุกสิ่งเหล่านี้จะหาได้ใน "ตลาดมืด" ซึ่งจะต้องมีช่องทาง-เส้นสาย และมีเงิน จึงจะสามารถเข้าถึงได้
.
ถ้าไปถามครอบครัวที่มีลูกเล็กๆในยุคนั้น ครอบครัวหนึ่งๆมักจะต้องสูญเสียลูก อย่างน้อยก็ครอบครัวละ 1 คน จากการเจ็บป่วย และไม่สามารถหายาได้ในจำนวนเพียงพอต่อการรักษา
.
ดังนั้น เด็กยุคนั้นที่รอดมาได้ จึงถือว่าต้องหนังเหนียวพอสมควร
.
หลังจากรอดมาได้ในตอนนั้น ก็ต้องมาเสี่ยงตายกับการชกต่อยเตะตีกับพวกวัยรุ่นต่างถิ่น ต้องเสี่ยงกับรถยนต์ต่างๆจะชนเอาเวลาข้ามถนน ต้องเสี่ยงกับการโดนลูกหลงที่เขาตีกัน เวลาไปกินข้าวต้มตอนดึกๆ ฯลฯ ต้องเสี่ยงสาระพัดเสี่ยงมามากมาย กว่าจะรอดมาถึงวันนี้
.
นึกว่า.. ต่อไปนี้คงจะมีความสุขความสงบกับเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งจะมากน้อยเท่าไหร่ก็ไม่อาจรู้ได้
.
แต่แล้ว... จู่ๆ ก็มีเจ้าโคโรน่า มาเยือน เจ้าโคโรน่านี้ ไม่ใช่เจ้าโตโยต้า โคโรน่า รถสวยรุ่นใหญ่ของค่ายโตโยต้า แต่เป็นเจ้าไวรัสที่แพร่ระบาดอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แล้วบัดนี้มันก็มาเที่ยวเมืองไทย เมืองที่คนจีนชอบมานั่นแหละ
.
ว่ากันว่าเจ้าไวรัสโคโรน่า หรือต่อมาให้เรียกกันว่า "COVID-19" นี้มันชอบกินปอด มันอาจไม่สนใจม้าม กระเพาะ ผ้าขี้ริ้ว เซ่งจี๊ ขอบกระด้ง ใดๆ ดังนั้นจึงทำให้คนที่ติดไวรัสนี้ไม่มีปอดหายใจ ชีวิตก็อยู่ไม่ได้
.
จากการติดตามข่าว มีการระบุว่าผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเป็นผู้มีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคนี้สูง และต่อมาข่าวการตายเป็นจำนวนมากในประเทศอิตาลีหลายพันคน และคนจำนวนมากในนั้นเป็นผู้สูงอายุ
.
และที่เศร้าและดูจะสยองสำหรับผู้สูงวัย คือข่าวที่ว่า หมอ และเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ หมอจึงต้องเลือกช่วยคนที่เยาวัยกว่า ผู้สูงอายุจึงต้องเสียชีวิตโดยขาดการดูแลและเครื่องมือแพทย์.. หลังจากนี้ประเทศอิตาลีซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในยุโรป คงจะต้องเสียแชมป์เสียแล้ว
.
ในสถานะผู้สูงอายุคนหนึ่ง ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความเจ็บป่วย ผ่านช่วงเวลาของโรคระบาดต่างๆมาหลายช่วงหลายเวลา รอดขีวิตมาจนถึงวันนี้
.
บัดนี้... ไม่ใช่เจ้า โตโยต้า โคโรน่า จะมารับไปเที่ยว แต่เป็นเจ้าไวรัสโคโรน่า ที่มาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าบ้าน ดูเหมือนมันจะชวนไปเที่ยวซอยทองหล่อ มันบอกสนุกมาก รับรองว่าเพื่อนๆของมันเตรียมต้อนรับเต็มที่ แต่ผมบอกมันว่าผมไม่ไปแน่ ตอนนี้ขอนอนอยู่บ้านอย่างเดียว จะไม่ไปไหนเด็ดขาด
.
ก็ขอบอกกล่าวมายังเพื่อนๆ พวกเราใช้ชีวิตกันมายาวนาน จนมาถึงวันนี้ ขออย่าไปหลวมตัวกับเจ้าโคโรน่าตัวแสบ ตอนนี้ควรใช้เวลาพักผ่อนอยู่บ้านไปพลางๆ รอเจ้าโคโรน่ามันเบื่อแล้วจากไป เราค่อยออกมาเจอกันใหม่
...............................
ขอให้ทุกท่านโชคดี เราจะผ่านเรื่องร้ายๆนี้ไปด้วยกัน
.........
7 เม.ย.2563

ขอบคุณภาพโดย Jasmine Fairhurst