ผู้ที่แข็งแรงเท่านั้นจึงจะอยู่รอด


ผู้ที่แข็งแรงเท่านั้นจึงจะอยู่รอด

ถ้าเราเคยดูหนังสารคดีชีวิตสัตว์  เราจะเห็นว่าสัตว์ชนิดต่างๆ มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูงๆ  และในฝูงนั้นจะมีหัวหน้าฝูง ทำตัวเป็นผู้ดูแลควบคุมสมาชิกในฝูง หรือที่เราชอบเรียกกันว่า "จ่าฝูง"
..
จ่าฝูงในหมู่สัตว์แต่ละชนิดจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป  แต่ทีเหมือนๆกันคือจ่าฝูงจะต้องเป็นตัวผู้ (ยกเว้นฝูงช้าง ผู้ควบคุมฝูงจะเป็นตัวเมีย) เมื่อจ่าฝูงเป็นตัวผู้ มันจึงใช้ตำแหน่งหัวหน้าฝูง ยึดเอาตัวเมียในฝูง  โดยเฉพาะสาวๆเป็นเมียมันทั้งหมด มันฟาดเรียบ ดังนั้นลูกๆที่เกิดใหม่ที่เป็นตัวผู้ ตัวแม่มักจะพาลูกหนีไปเช่นลูกสิงห์โต หรือไม่ก็ต้องกันลูกออกห่างจากจ่าฝูงหรือตัวผู้อื่นๆ เช่นลิงบางชนิด  มิฉะนั้นตัวผู้ที่เกิดใหม่จะต้องถูกตัวผู้ที่ใหญ่กว่าโตกว่าฆ่า เพื่อกำจัดคู่แข่งในอนาคต
..
ทำไมสัตว์ตัวผู้ที่ใหญ่กว่า จึงต้องฆ่าตัวผู้เด็กๆหรือที่เกิดใหม่  นี่คือกฏแห่งธรรมชาติ  คือผู้ที่แข็งแรงกว่าจึงจะอยู่รอด เพื่อควบคุมจำนวนพลเมืองให้เพียงพอกับที่อยู่และอาหารการกินที่จำกัด
..
แต่กฏก็ต้องเป็นกฏ ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเจนในฝูงสิงห์โต  เมื่อลูกสิงห์โตตัวผู้ตัวใดสามารถหลบหลีกรอดจากกรงเล็บของจ่าฝูงหนีรอดไปได้ มันก็จะเป็นสิงห์โตหนุ่มผู้โดดเดี่ยวเร่ร่อนไปทั่วป่า บัดนี้มันเป็นสิงห์โตหนุ่มที่แข็งแรง มันต้องการมีตัวเมียเพื่อสืบพันธุ์ และมีฝูงที่อยู่ในการควบคุมดูแลของคนเอง มีฮาเร็มที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิงห์โตตัวเมียของตนเอง  มันจะหาสิ่งนี้มาได้อย่างไรล่ะ  นอกจากมันจะต้องเร่ร่อนไปจนกว่าจะเจอฝูงสิงห์โตสักฝูง  ที่มันจะต้องไปแย่งชิงฝูงจากจ่าฝูงเดิม ถ้ามันชนะมันก็จะยึดฝูงนั้นเป็นของมัน แต่ถ้ามันแพ้และมันรอดตาย มันก็จะเร่ร่อนต่อไป 
..
ที่ว่ากฏต้องเป็นกฏ  ก็คือสิงห์โตหนุ่มในอดีตที่เป็นจ่าฝูงที่พยายามกำจัดสิงห์โตหนุ่มๆที่เกิดใหม่ในอดีต  บัดนี้อยู่ในวัยชราหรือเรียกกันว่าเขี้ยวหลุด นอนรอให้ตัวเมียหาอาหารมาป้อน  เมื่อสิงห์โตหนุ่มมาเจอฝูงที่มีจ่าฝูงอยู่ในสภาพเช่นนี้ ก็ถือว่าหวานหมู ไม่ต้องออกแรงมากก็เข้าเทคโอเวอร์ฝูงได้สบายๆ อับเปหิเจ้าสิงห์โตแก่กลายเป็นสิงห์โตชราออกเร่ร่อนรอวันตายอย่างเดียวดาย
..
หวังว่าคงไม่มีเพื่อนผู้เกษียณ มีบั้นปลายชีวิตเช่นสิงห์โตเฒ่านะครับ
..
ชาลส์ ดาร์วิน นักศึกษาค้นคว้าการพัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเช่นสัตว์และพืช พบว่าการเปลี่ยนแปลงและคงอยู่ของสัตว์และพืชเป็นการคัดสรรโดยธรรมชาติ สัตว์ใดจะคงอยู่หรือสูญพันธุ์ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติ  ผู้ที่แข็งแรงกว่าจึงจะอยู่รอด...
..
มาถึงวันนี้...
ที่โลกเจอกับโคโรน่าไวรัส หรือ โควิด-19
ผู้คนมากมายต้องตายไป จากการระบาดของไวรัสโคโรน่าไปทั่วโลก  ถ้าเรามาเทียบกับทฤษฎีของชาลส์ ดาร์วิน  สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มันเป็นสิ่งที่ธรรมชาติเป็นผู้คัดสรรหรือ  ผู้ที่เสียชีวิตเป็นผู้อ่อนแอหรือ
..
การดำเนินชีวิตของสัตว์ ถูกโปรแกรมให้เป็นไปตามธรรมชาติ เคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น เช่นการเดินทางของนก หรือการย้ายถิ่นของฝูงสัตว์เพื่อหาอาหาร  ซึ่งการกระทำนั้นๆจะต้องสูญเสียชีวิตสมาชิกฝูงไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่อาจหยุดการกระทำนั้นได้
..
แต่มนุษย์ เป็นสัตว์ที่พัฒนาสมองมาเพื่อต่อสู้กับธรรมชาติ  มนุษย์จึงไม่ยอมให้ธรรมชาติกำหนดแต่เพียงฝ่ายเดียว  แต่มนุษย์แต่ละคนก็มีความแข็งแรงไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะทางร่างกาย ทางสมอง ทางสังคม ทางเศรษฐกิจ มนุษย์บางคนแม้จะมีร่างกายไม่แข็งแรง แต่มีเศรษฐกิจที่แข็งแรง เขาเหล่านั้นก็ใช้ทรัพยากรที่ตนมี ช่วยให้ตนเองอยู่รอดพ้นภัยไปได้
..
ดังนั้นมนุษย์ที่ถูกธรรมชาติคัดสรรคราวนี้  จึงเป็นพวกคนจนๆ คนยากไร้ คนแก่คนชรา ที่จะมีโอกาสช่วยตนเองน้อยมาก..
..
คนที่ตายเป็นจำนวนมากที่สุดน่าจะเป็นคนแก่คนชราผู้สูงอายุในแต่ละประเทศ คนเหล่านี้มีร่างกายทรุดโทรมอ่อนแอ ไม่สามารถต้านทานไวรัสได้ โลกที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคผู้สูงวัยจึงอาจจะชลอลง  บ้านพักคนชราในแต่ละประเทศแทบจะว่างไร้คนชราไปเลยทีเดียว
..
อีกพวกก็คือพวกยากจน
ไวรัสเป็นโรคทางเดินหายใจ ซึ่งติดต่อกันทางอากาศที่หายใจใส่กัน  คนยากจนเหล่านี้มักจะอยู่ในที่แออัด อยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก โอกาสติดเชื้อจึงเป็นไปได้โดยง่าย
..
ไม่มีรายละเอียดว่าผู้ที่เสียชีวิตในแต่ละประเทศ เป็นบุคคลประเภทไหนบ้าง มีบางประเทศถึงกับพูดว่าผู้สูงอายุควรเสียสละให้วัยหนุ่มสาว เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจมีไม่เพียงพอ  สังเกตุได้ว่ามีประเทศที่คนเสียชีวิตเป็นหมื่นเป็นแสน แต่ไม่มีปฏิกิริยาจากประชาชนเลย จึงเข้าใจได้ว่าคนที่ตายอยู่ในกลุ่มที่ไม่มีปากมีเสียงเช่นคนชรา คนกลุ่มน้อยคนยากจน คนผิวสี และมีข่าวว่าคนพื้นเมืองในป่าอเมซอนในบราซิลตายเป็นจำนวนมาก
..
ผู้ที่เสียชีวิตในโรคระบาดคราวนี้ อาจจะเป็นการ "คัดสรรโดยธรรมชาติ" เพราะธรรมชาติเห็นว่าโลกนี้มีมนุษย์มากเกินไป  แต่การคัดสรรโดยธรรมขาติ อาจบิดเบนไปบ้าง เพราะมีนายทรัมป์ และนายอะไรที่เป็นประธานาธิบดีบราฃิลเป็นผู้ช่วยคัดสรร ประชาชนสองประเทศนี้จึงถูกคัดเลือกมากหน่อย
..
ในฐานะผู้สูงอายุคนหนึ่งที่โชคดีที่ได้อยู่ในประเทศไทย และหลุดรอดมาจนถึงวันนี้ วันที่แทบจะไม่มีคนแพร่เชื้อแล้ว และไม่ต้องมีคนมาบอกให้เสียสละเครื่องช่วยหายใจให้ผู้อื่น ด้วยเหตุผลว่า คุณตาถึงจะรอดครั้งนี้ไปได้ ก็คงจะอยู่อีกไม่นานหรอก เสียสละเถอะ..
..
ถึงแม้โควิด-19 จะยังไม่หมดไป แต่ก็ต้องขอขอบคุณ คุณหมอและบุคลากรทุกท่านที่ได้ร่วมปฏิบัติการจนการแพร่ระบาดเบาบางลง ทำให้ผู้เฒ่าได้ลดความหวาดกลัวลงบ้าง (ใครจะไม่กลัวล่ะ มันเล่นถึงตายเลยนี่)
..
สิงห์โตเฒ่าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายเมื่อวัยชราอย่างไร  ชายชราผู้เฒ่าเมื่ออ่อนแรง ก็คงมีสภาพไม่แตกต่างกัน จะคำรามทั้งทีก็มีแต่เสียงไอ แค็กๆ
..
ขอให้ทุกท่านโชคดี ปลอดภัยจากโรคร้าย
.....................


**************



ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

10 June 2020

****************