เกษียณ - สู่การเมือง

เกษียณ - สู่การเมือง
.......

ความกังวลสิ่งหนึ่งของผู้เกษียณ นอกจากเงินที่จะมีไว้ยังชีพหลังเกษียณ สิ่งนั้นก็คือกลัวว่าจะไม่มีอะไรจะทำ เพราะคิดว่าชีวิตประจำวันที่ทุกวันต้องตื่นแต่เช้ารีบร้อนออกจากบ้านไปทำงาน อยู่ที่ทำงานทั้งวัน กว่าจะกลับบ้านก็ตกเย็นค่ำ  ชีวิตดำรงอยู่เช่นนี้ตลอดมา  แต่เมื่อวันหนึ่งถึงวัยเกษียณ เช้าตื่นขึ้นมา ไม่ต้องรีบร้อนออกจากบ้านไปทำงาน สามารถเดินไปเดินมาในบ้านได้อย่างอิสระเสรี  เอ.. เราต้องคิดต้องใช้สมองว่าเราจะทำอะไรดีในวันว่างๆเช่นนี้
..
หลายคนอาจจะมีแผนการไว้ก่อนแล้วว่าจะทำอะไรหลังเกษียณ ก็จะทำต่อเนื่องได้เลย  แต่บางคนก็ไม่ได้เตรียมอะไรไว้  เวลาทำงานก็มุ่งมั่นทำแต่งาน กลับบ้านก็เหนื่อยพักผ่อน ไม่ได้มีสวนมีไร่กะเขา แม้แต่งานอดิเรกก็ยังไม่มีเวลาจะทำเพื่อการพักผ่อน คนประเภทหลังนี่ออกจะงงๆหน่อย ในวันแรกๆที่เกษียณ
..
ผู้เกษียณที่พอมีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนอะไร ไม่ต้องหารายได้เพิ่มเติม ตำแหน่งการงานก่อนเกษียณก็พอมีหน้ามีตา ไม่เป็นข้าราชการก็พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือตำแหน่งที่มีเกียรติเป็นที่รู้จักกันในวงสังคม คนพวกนี้มักจะมีพวกพ้องน้องพี่คนรู้จักเยอะ  เมื่อเกษียณก็จะมีเวลาออกพบปะเพื่อนฝูงสังสรรค์กันบ่อยขึ้น  คนที่ห่างหายกันไปนานก็อาจมีโอกาสมาพบกัน หรืออาจจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้น  ในวงการเช่นนี้ อาจจะมีนักการเมืองหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการเมืองอยู่บ้าง
..
เมื่อใดที่บ้านเมืองเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น เวลานี้แหละจะมีตัวแทนพรรคการเมืองทำหน้าที่หาผู้สมัครตัวแทนพรรคในเขตพื้นที่ที่ยังไม่มีคนของพรรคยึดครองอยู่  พรรคเหล่านี้อาจไม่ได้หวังผลการเลือกตั้งจริงจังนัก เพราะรู้อยู่แล้วว่าพรรคของตนไม่มีวันชนะพรรคคู่แข่ง  แต่ต้องการส่งผู้สมัครเพื่อให้ชื่อพรรคของตนติดหูติดตาชาวบ้านไว้เท่านั้น
..
ตอนนี้แหละตัวแทนพรรคที่มีหน้าที่หาผู้สมัครรับเลือกตั้ง อาจจะเป็นเพื่อนหรือคนในกลุ่มที่รู้จักคุณและรู้คุณสมบัติของคุณ จะเข้ามาติดต่อ พูดจาชื่นชมชีวิตการทำงาน ตำแหน่งหน้าที่การงานของคุณ ความเหมาะสมและโอกาสที่คุณสมควรเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อสมัครเข้าชิงตำแหน่ง โดยทางพรรคจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด  เมื่อคุณได้รับการโอ้โลมปฏิโลมแม้คุณจะปฏิเสธในตอนแรก ในที่สุดคุณก็พ่ายแพ้แก่ลมปากของผู้ชักชวน
..
คุณอาจจะคิดว่า เออ.. เราก็ไม่ต้องเสียอะไร พรรคสัญญาว่าจะออกให้หมด แล้วเราก็มีเพื่อนฝูงมากมาย คงจะมีคนเลือกเราบ้างหละ แล้วก็นั่งคิดด้วยความภูมิใจว่า แม้เราเกษียณแล้วก็ยังมีคุณค่า
..
เมื่อลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ก็ได้เวลาในการหาเสียง เบื้องแรกก็ต้องพิมพ์โปสเตอร์ ค่าจ้างคนติดโปสเตอร์ ค่าจ้างคนเดินแจกบัตรหาเสียง ค่าจ้างรถหาเสียง ค่าเช่าเครื่องเสียง ฯลฯ ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย และทุกอย่างต้องทำในเวลาที่จำกัด
..
ในช่วงแรกตัวแทนพรรคอาจจะจ่ายเงินให้ แต่ต่อๆมา เขาอาจจะบอกว่าพี่ช่วยจ่ายไปก่อน ผมกำลังทำเรื่องเบิกอยู่  นอกจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว  การที่ท่านเป็นผู้สมัครก็อาจมีพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ท่านต้องสัมพันธ์ด้วย สิ่งเหล่านี้ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งท่านต้องควักกระเป๋าส่วนตัว  ส่วนเงินที่พรรคจะออกให้ ไปๆมาๆ หลังเลือกตั้งเสร็จ ไอ้ตัวแทนพรรคก็หายไปด้วย
..
ในอดีตผมมีคนที่รู้จัก ที่เกษียณมาแล้ว ได้เงินเกษีณมาไม่กื่ล้านบาท ได้หลงคารมลงสมัครการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง จากการเยินยอของนักการเมือง ต้องหมดเนื้อหมดตัวไปกับการหาเสียง และก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ดีว่าเมียเป็นข้าราชการบำนาญ จากผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว กลายมาเป็นผู้ที่เมียต้องแบ่งเงินบำนาญให้ใช้ในแต่ละเดือน เกียรติและศักดิ์ศรีที่ได้รับการสรรเสริญเยินยอมลายหายไปสิ้น
..
ดังนั้น ขอแนะนำผู้เกษียณที่มีเวลาว่างแล้วคิดว่าจะเล่นการเมือง โดยที่ท่านไม่มีพื้นฐานมาก่อน หรือมีญาติพี่น้องที่อยู่ในวงการเมือง มีฐานคะแนนแน่นเปรี๊ยะมาก่อนแล้ว  ขอให้ท่านจงเก็บเงินเกษียณของท่านไว้เลี้ยงดูตนเอง เพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องเดือดร้อนจะดีกว่า  โดยเฉพาะการคิดคะแนนในระบบใหม่ ที่ทุกคะแนนเสียงไม่มีตกน้ำ  แม้แต่คะแนนเล็กๆน้อยๆ เขานำมาคิดหมด  ดังนั้นแม้แต่คะแนนเล็กๆน้อยของท่านจะไม่ทำให้ท่านได้รับการเลือกตั้ง แต่คะแนนเหล่านั้นมันมีประโยชน์ต่อพรรคในการคัดเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองพรรคเล็กพรรคน้อยที่แม้จะไม่มี ส.ส.จากการเลือกตั้งเลย แต่เขาสามารถมี ส.ส.บัญชีรายชื่อได้อย่างน้อยก็หนึ่งคนหละ คะแนนเหล่านั้นก็มาจากผู้สมัครโนเนมนั่นเอง
..
ก็หวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปคงไม่มีเหยื่อที่ออกมาโวยวายว่าโดนพรรคบางพรรคที่สัญญาว่าจะจ่ายค่าหาเสียงให้คนละเท่านั้นเท่านี้ แต่พอเลือกตั้งเสร็จแล้วโดนเบี้ยว  คะแนนก็เอาไปแล้ว เงินไม่จ่ายซะนี่

...........
8 มิถุนายน 2562