กันยายน.. เดือนแห่งการอำลา



เมื่อเดือนกันยายนมาถึง

ผู้ที่อายุครบ 60 ปี ในปีนั้นๆ คงจะมีความรู้สึกแตกต่างกันไป  บางคนดีใจที่ถึงเวลาพักผ่อนเสียที หลังจากตรากตำทำงานมาหลายสิบปี  บางคนอาจเสียดายที่ร่างกายกำลังวังชายังแข็งแรง ยังไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ยังอยากจะทำงานต่อไป  บางคนอาจจะกำลังครุ่นคิดว่า ต่อจากนี้ไป เราจะไม่ได้รับเงินเดือนอีกแล้ว  เงินทองที่ได้มาก็จับจ่ายใช้สอยไปกับครอบครัวในทุกๆเดือนแทบไม่เหลืออยู่แล้ว หลังจากนี้จะทำอย่างไรดี

บางคนเป็นเจ้านายมีตำแหน่งใหญ่โต มีลูกน้องมากมาย  มีคนเคารพนบไหว้มากมาย หลังจากนี้จะต้องนั่งอยู่บ้านอย่างเงียบเหงา  บางคนมีงานนอกทำอยู่ ก็จะได้ถือโอกาสไปทำงานส่วนตัวได้เต็มตัวเสียที

บางคนเป็นข้าราชการมีนอกมีในมีผลประโยชน์อยู่ ก็ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อย  เพราะเมื่อหมดหน้าที่แล้ว อะไรที่เคยได้ คนใหม่เขาอาจมารับแทนต่อไป

แต่ละคนก็มีอนาคตแตกต่างกันไป  แล้วแต่ว่าใครจะเตรียมการวางแผนชีวิตมาอย่างไร  ใครเตรียมตัวมาดีก็จะเกษียณอย่างมีความสุข  ใครที่มีชีวิตลุ่มๆดอนๆ ชีวิตมีปัญหาอุปสรรค ทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตไปตามเป้าหมายได้ ก็คงมีความกังวลใจว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะดำเนินต่อไปอย่างไร...

เดือนนี้ก็คงเป็นเดือนแห่งการร่ำลา  เลี้ยงสังสรรค์กันก่อนจากลา  หลังจากนี้การพบปะพูดคุยสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน  ก็คงจะค่อยๆห่างเหินร้างลาไปทีละน้อย  เพราะเพื่อนร่วมงานที่ยังทำงานอยู่ก็ต้องใช้เวลาหมกมุ่นทำงานเพื่อความก้าวหน้าต่อไป คงไม่มีเวลามาอาลัยอาวรณ์กับเรามากนัก  สำหรับคนที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชา  มีลูกน้องคอยยกย่องเทิดทูนป้อยอ  ลูกน้องเหล่านั้นก็จะค่อยๆหายไป จะไปว่าเขาคงไม่ได้  เพราะเขาต้องมีเจ้านายคนใหม่ที่เขาจะต้องใส่ใจ เพื่ออนาคตของเขา

ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้  คือสิ่งที่คนทำงานที่ไม่ใช่ธุรกิจส่วนตัวจะต้องพบเจอเมื่อ 60 ปีมาถึง  ว่าแต่ว่าแต่ละคนจะปรับตัวปรับชีวิต เพื่อพบกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างไร  ขึ้นอยู่กับโลกทัศน์ชีวทัศน์และการเตรียมความพร้อมของแต่ละคน

ขอให้ผู้เกษียณทุกท่าจงมีความสุขในชีวิตหลังเกษียณนี้นะครับ  และขอให้รักษาสุขภาพให้แข็งแรง สุขภาพดีมันสุดยอดยิ่งกว่าสิ่งใด  โชคดีทุกท่านนะครับ




เกษียณแล้ว เที่ยวให้สนุกนะครับ...


*******






กลับมาแล้วครับ

สวัสดีครับ

เป็นเวลานานนับปีที่ผมได้ห่างหายจากหน้านี้ไป  แรกๆก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้กลับมาทำหน้าที่นี้อีกแล้ว  สาเหตุก็เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่เป็นไปตามสังขาร  จู่ๆมันก็มาเยือนโดยไม่บอกไม่กล่าว  ที่จริงมันก็บอกกล่าวโดนการเตือนทางอาการมาบ้างแหละ แต่เราไม่สนใจ นึกว่าไม่เป็นอะไรมากนัก ก็ปล่อยๆ ไม่ใคร่จะสนใจจะดูแลมัน  จนในที่สุดมันก็แสดงอาการออกมาถึงขนาดต้องเข้านอนโรงพยาบาลนั่นแหละ  จึงได้รู้ว่าร่างกายเรามันใช้งานมามากแล้วนะ  จะใช้มันอย่างสมบุกสมบันเหมือนสมัยก่อนไม่ได้แล้วนะ

เมื่อเจอเข้าไปอย่างนี้  ก็เลยต้องถอยจากกิจกรรมต่างๆที่เคยทำ เคยยุ่งเกี่ยวด้วย  มานอนพักรักษาตัวให้ร่างกายมันได้พักผ่อน  ถ้าขืนยังทำอยู่ก็อาจจะเป็นที่เวทนาของเพื่อนร่วมงานเขาเปล่าๆ  ผมก็เลยต้องทำใจ  แยกตัวจากสังคมมาอยู่บ้าน เพื่อให้อวัยวะต่างๆได้ชลอความเสื่อมทรุดโทรมไม่ให้มันไปเร็วกว่านี้  ระยะนี้มิตรสหายเพื่อนพ้องก็ค่อยๆหายหน้าหายตาไป   

ความเจ็บป่วยมันทำให้เราเหมือนเป็นคนไม่มีประสิทธิภาพ  ในอดีตเราเคยช่วยสังคมช่วยส่วนรวมช่วยบุคคลต่างๆได้  มาตอนนี้ แม้จะช่วยตัวเองยังลำบาก  ก็พยายามปรับตัว ปรับชีวิต ปรับความคิด ให้เข้ากับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป  พยายามเข้าใจสัจธรรมความเปลี่ยนแปลงของมนุษย์  อย่าไปติดยึดกับจิตใจของคน  เมื่อไม่มีผลประโยชน์ต่อกันแล้ว  เราไม่สามารถทำประโยชน์ให้ใครได้แล้ว คุณค่าของเรามันย่อมหมดไป เป็นไปตามสัจธรรม

ก่อนหน้านี้ผมเป็นกรรมการชมรมผู้เกษียณอายุสหกรณ์ออมทรัพย์ฯการไฟฟ้านครหลวง  และผมได้ลาออกเมื่อสภาพร่างกายไม่อำนวย  เมื่อไม่ได้อยู่ในวงการแล้ว  เรื่องราวข่าวคราวที่ผมเคยรายงานให้เพื่อนๆทราบมันก็ไม่มี  ผมก็เลยคิดว่าผมควรจะหยุดเขียนได้แล้ว เพราะไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดๆมารายงาน

ระหว่างที่หยุดเขียนไป  ก็มีโทรศัพท์บ้าง อีเมล์บ้าง เข้ามาพูดคุยในเรื่องต่างๆ บางคนก็อยากหาเพื่อน บางคนก็ปรีกษาชีวิตวัยเกษียณ และเรื่องอื่นๆ ผมจึงทราบว่า blog ที่ผมเขียนนี้มีบุคคลทั่วๆไปเข้ามาอ่านเหมือนกัน เมื่อเข้ามาดูสถิติการเข้าดู ก็ยังพบว่ามีคนเข้าดูอยู่่เรื่อย  ดังนั้นการที่ผมปล่อยให้ blog อยู่ในสภาพไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ก็ดูจะเป็นการทำให้ผู้เข้าดูเสียความรู้สึก

ดังนั้นผมจึงคิดว่าผมจะกลับมาเขียนอีกครั้ง  แม้วัยจะร่วงโรยไป แต่จิตใจยังโลดแล่นอยู่ แม้ว่ามันจะแล่นไปอย่างช้าๆกระโดกกระเดกเต็มที  การเขียนคราวนี้ คงเป็นความเห็น-ประสบการณ์ ของคนแก่ๆคนนึง เขียนไปตามความคิด-ความจำตามแต่จะนึกอะไรขึ้นมาได้ คงไม่มีสาระที่จะแนะนำคนเกษียณให้หึกเหิมได้หรอก  คงจะคุยกันในเรื่องที่เขาชอบว่ากันว่าคนแก่ชอบคุยแต่เรื่องเก่าๆนั่นแหละ

ใครที่พลัดหลงเข้ามาที่ blog นี หากอยากจะหาเพื่อนวัยเดียวกัน ไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด  ขอเชิญได้ที่เฟสบุ๊ค สุขใจ วัยเกษียณ  https.//www.facebook.com/60freelife  ได้เลยนะครับ ท่านอาจจะได้พบเพื่อนที่ถูกคอกันสักคน เพิ่งเปิดใหม่นะครับไว้รองรับผู้เกษียณหรือผู้ที่กำลังจะเกษียณโดยเฉพาะ  อย่าลืมนะครับ จำนวนผู้สูงอายุกำลังเพิ่มพูน

สวัสดีครับ
หวังว่าคงได้พบกันอีก

************



ถ้าได้อย่างพี่คนนี้สักคนมาดูแล ก็คงจะดีนะ...


กระซิบเบาๆ



ยายๆ.. Blogger คนเดิมเขาจะกลับมาเขียนอีกแล้วนะ  ยายรออ่านได้แล้วจ้ะ