อยากจะเป็น "สูงวัย ใจโจ๋" (บ้าง)



อยากจะเป็น "สูงวัย ใจโจ๋" (บ้าง...จังเลย)


          ผมทิ้งท้ายไว้ในบทความ "มาแล้วครับ" เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 ว่าประธานสหภาพฯ คุณประจวบ คงเป็นสุข  แจ้งมายัง "ชุมชนคนเกษียณ" ว่า ได้มีการยื่นข้อเรียกร้องให้ กฟน.ปรับปรุงสภาพการจ้าง เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 โดยมีสวัสดิการเกี่ยวกับผู้เกษียณ 2 ข้อ และขอให้ชมรมผู้เกษียณทั้ง 2 ชมรมช่วยกันผลักดันให้ประสบความสำเร็จต่อไป  ข้อความนี้ส่งมาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งอาจจะเข้าใจได้ว่าคุณประจวบคงจะเจตนาแจ้งข่าวนี้ใน "วันแรงงาน" เพื่อเป็นขวัญ-กำลังใจให้แก่รุ่นพี่ๆที่กำลังต่อสู้กับชีวิตความเป็นอยู่กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวันๆ


          เมื่อเป็นดังนี้ จึงเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องมารายงานให้ เพื่อนๆพี่ๆผู้เกษียณทั้งหลายได้ทราบว่า คุณประจวบในฐานะหัวหน้าทีม "กลุ่มปฎิรูปแรงงาน" ได้ดำเนินการยื่นข้อเรียกร้องแก่ฝ่ายบริหารตามที่ได้ "หาเสียง" ไว้ ถึงแม้ผู้เกษียณจะไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนั้น แต่คิดว่าผู้ที่ยังไม่เกษียณก็คงสนับสนุนแนวคิดนี้ เพราะว่าถึงวันหนึ่งข้างหน้า พวกท่านก็ต้องมายืนอยู่ในสภาพเดียวกับพวกเรา


ประกบไว้เลย


          รายละเอียดที่ผมได้อ่านใน "ข่าวลูกจ้าง" ฉบับที่ 1/2544 ประจำเดือนมีนาคม-เมษายน 2554 ซึ่งถือได้ว่าเป็นฉบับแรกของกรรมการชุดใหม่นี้ ซึ่งได้ข่าวว่าสมาชิกแย่งกันอ่านมากจนไม่มีเหลือ ขนาดผมไปขอที่สหภาพฯยังไม่มีเลย ไม่ทราบเป็นแผนโปรโมทของฝ่ายประชาสัมพันธ์(ผู้จัดทำ)หรือเปล่า 

          "ข่าวลูกจ้าง" นี้ ผู้เกษียณจะไม่ได้รับแจก เพราะเราไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว (หมดสมาชิกภาพตามกฎหมาย) ไม่เหมือนกับข่าวของสหกรณ์ฯ ที่ยังแจกให้สมาชิกทุกคน ไม่เว้นผู้เกษียณที่ยังเป็นสมาชิกอยู่ ดังนั้นถ้าท่านสนใจข่าวลูกจ้าง ท่านสามารถอ่านได้ที่เว็บของสหภาพฯ คือ www.meawu.org แต่ในข่าวลูกจ้างฉบับในเว็บฉบับนี้ หน้าตาไม่เหมือนฉบับจริง รายละเอียดของ "ข้อเรียกร้อง" ก็ไม่มี  ถ้าใครอยากดู "ข้อเรียกร้อง" ต้องเข้าไปดูที่ "กระดานข่าว" ซึ่ง admin ได้โพสท์ไว้ที่หัวเรื่อง "กม.แรงงาน" 
          เรื่องนี้ขอแทรกหน่อยครับท่านประธานฯ  เรื่อง "ยื่นข้อเรียกร้อง" นี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นผลงานของสหภาพ ต้องระดมพลัง ปลุกกระแสให้สมาชิกรับรู้รับทราบ เกิดความคิดร่วมกัน แต่กลับเอาข่าวไปเก็บไว้ที่ "กระทู้" ซะลึกเลย ทำไมไม่เอามาไว้หน้าโฮมเพจ รวมถึงควรมีรูปถ่ายในการยื่น "ข้อเรียกร้อง" ให้เห็นกันจะๆไปเลย เพราะนี่คือ "พันธสัญญา" ที่จะต้องดำเนินการเจรจาต่อรองกันต่อไป

          พูดถึงเว็บของสหภาพฯ เรื่องนี้ก็ต้องขอให้เครดิตความคิดริเริ่มจากคณะกรรมการสหภาพฯชุดที่แล้วหน่อย โดยเฉพาะคุณวัฒนา สพสมัย ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี ได้ร่วมกันคิดและผลักดันให้มีการเริ่มต้นเกิดขึ้น  คงมีผู้อื่นร่วมด้วยซึ่งผมไม่ทราบเลยไม่ได้เอ่ยนาม ต้องขออภัยด้วยครับ   Blog ผมก็อาศัยเว็บของสหภาพนี่แหละเป็นที่เปิดตัวให้ผู้อ่านได้รู้จัก ก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ   ก็หวังว่าคณะกรรมการชุดปัจจุบันคงสานต่อและพัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกต่อๆไป(และแน่นอน อย่าเอาแบนเนอร์ผมออกก็แล้วกัน ขออาศัยด้วยคนนะครับ)

          อ้อมไปเสียไกลเลย ขอกลับมาเรื่องข้อเรียกร้อง 2 ข้อที่เกี่ยวกับผู้เกษียณใหม่ สำหรับข้อเรียกร้องอื่นๆ ใครอยากรู้ก็ไปอ่านเอาตามที่ว่าแล้วกัน (คงอั้นไว้นาน ออกทีก็ชุดใหญ่เลย) 2 ข้อที่ว่าคือ

          ข้อ 2.3  ขอให้พนักงานผู้เกษียณที่มีอายุงานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปให้ได้รับสิทธิ์รักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าพนักงานปัจจุบันเฉพาะตัว...(มีต่อ..ไม่เกี่ยวผู้เกษียณ)

          ข้อ 2.4 ขอให้ปรับปรุงโรงพยาบาลการไฟฟ้านครหลวง ให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาล

          สองข้อเท่านั้นเองครับท่านผู้ว่าฯ สำหรับผู้เกษียณ  ยิ่งสำหรับข้อ 2.4 ยิ่งไม่น่ามีปัญหา เพราะเดิมก็ทำอยู่แล้ว ทำอย่างมีคุณภาพจนกระทั่งเป็นที่ยอมรับของบุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการกันอย่างมากมาย  จนกระทั่งมาถึงผู้ว่าฯบางคนที่พยายามจะสนองตอบนโยบายรัฐบาลสมัยหนึ่ง ต้องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และก็ไปเชื่อทฤษฎีบ้าบอของพวกคลั่งการแปรรูปว่า "โรงพยาบาล" ไม่ใช่กิจกรรมของรัฐวิสาหกิจ ให้เลิกทำเสีย  ทั้งๆที่โรงพยาบาลเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงาน  การเปลี่ยนแปลงถือว่าเป็นการเปลี่ยนสภาพการจ้าง  โดยเฉพาะข้อตกลงที่ทำกันในขณะที่พนักงานยังไม่เกษียณต่อเนื่องเมื่อเกษียณแล้วต้องได้รับสวัสดิการอย่างไรบ้าง   ดังนั้นเมื่อผู้เกษียณถูกลดสวัสดิการลง จึงถือว่า "ผิดสัญญาสภาพการจ้าง" แต่เนื่องด้วยผู้เกษียณขาดอำนาจต่อรอง จึงถูกเอาเปรียบจากผู้บริหาร กฟน.ที่หวังแต่จะแสวงหารักษาตำแหน่งของตัว (เรื่องนี้ ถ้าจะคุยแล้วมันยาว ขอเก็บไว้ก่อน)

          สำหรับข้อ 2.3 นั้นก็น่าสนใจ คนที่ทำงานมา 20 ปีแล้ว มันเข้าสายเลือดแล้ว ก็ทำมาเกือบครึ่งชีวิต ออกไปแล้วมันยังมีความผูกพันกันอยู่  แต่จู่ๆสิทธิที่เคยได้ก็ถูกตัดไป  เคยนั่งรอคิวในโรงพยาบาลการไฟฟ้านครหลวงที่คุ้นเคย พบปะกับผู้คนที่รู้จัก คุ้นเคยกับคุณหมอ  แต่หลังจากเกษียณต้องไปเรียนรู้ในการใช้บริการโรงพยาบาลของรัฐ มีขั้นตอนที่แตกต่างกัน มีผู้ใช้บริการที่แออัดยัดเยียด ต้องชำระเงินเองพูดง่ายๆแทนที่แก่แล้วจะสบาย กลายเป็นว่า "มาลำบากเมื่อแก่" ไม่เหมือนกับผู้บริหารที่มีรายได้มากพอที่จะไปใช้บริการ โรงพยาบาลเอกชนได้อย่างไม่เดือดร้อน

          ที่จะพูดต่อไปนี่ ไม่ใช่อิจฉา แต่มันสะท้อนใจ 

          ได้พูดคุยกับคนวัยเดียวกัน ถึงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บของผู้สูงอายุ  แล้วเค้าก็ถามเราว่า เราไปรักษาที่ไหนล่ะ  เราก็บอกไปรักษาที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง แล้วแต่ว่ามีคนแนะนำ แต่ก็เป็นโรงพยาบาลของรัฐที่เสียเงินน้อยหน่อย ยาก็ไม่ค่อยให้ ไอ้ที่ให้ก็ไม่ค่อยดี  เค้าก็บอกว่าทำไมไม่ไปที่นั่น-หรือที่นี่ล่ะ หมอก็ดี ยาก็จ่ายยาดีๆให้ เพราะฉันเบิกได้ ลูกฉันอยู่ไฟฟ้า...เออนะ  เราทำงานไฟฟ้ามาเกือบสี่สิบปี เกษียณแล้วต้องรอความกรุณาจากหมออย่างอนาถา สู้คนมีลูกอยู่ไฟฟ้าไม่ได้เลยนะ

          พักไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน

          ก็พอดีเปิดเว็บ www.mea.or.th คงทราบนะครับว่าเป็นเว็บขององค์กรไหน  พบข่าว   การไฟฟ้านครหลวงจัดกิจกรรม "สูงวัย ใจโจ๋"  ในข่าวบอกว่า เพื่อให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ  ในงานก็มีการตรวจสุขภาพ แจกยาสามัญประจำบ้าน ตัดผมฟรี มีการเสวนา "ทำอย่างไร สุขภาพใจและกายแข็งแรง" และมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ลองไปเปิดอ่านเอาเองก็แล้วกัน

          ก็ดีครับ เป็นการประชาสัมพันธ์องค์กรรูปแบบหนึ่ง  พวกเราผู้เกษียณก็ไม่ได้อิจฉาอะไร  แต่น้อยใจนิดๆได้แต่มองตาปริบๆ  ทำไมเราไม่ได้รับการดูแลเช่นนี้บ้างนะ  
          เอาภาพมาไห้ดูบางภาพครับ


ผู้บริหาร กฟน.

ประกวดขวัญใจวัยโจ๋

เป็นอย่างไรครับ ดูภาพแล้วน่าสนุกนะครับ
สำหรับภาพข้างล่างนี่ไม่ใช่ในงาน "สูงวัย ใจโจ๋" นะครับ
เป็นผู้เกษียณที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครับ



"ขอผมเป็น 'วัยโจ๋' ด้วยคนได้มั๊ยครับ"



            ก็ต้องขอขอบคุณประธานสหภาพฯคุณประจวบ คงเป็นสุข และคณะกรรมการทุกท่านที่ช่วยนำเสนอข้อเรียกร้องนี้  ทั้งนี้  หากได้รับความสำเร็จ ประโยชน์ที่ได้รับมิใช่ว่าจะตกอยู่กับผู้เกษียณรุ่นปัจจุบันเท่านั้น  ผลงานนี้ก็จะเป็นประโยชน์แก่พนักงานที่จะเกษียณในรุ่นต่อๆไป รวมถึงผู้บริหารทุกท่านก็จะได้รับประโยชน์นี้เช่นเดียวกัน    ดังนั้น ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกสหภาพฯปัจจุบันที่จะรวมพลังกันขับเคลื่อนเพื่ออนาคตข้างหน้ารวมทั้งเกิดจากความเข้าอกเข้าใจของฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้อง   สำหรับผู้เกษียณก็คงกระทำได้แต่เพียงเฝ้าดู และส่งกำลังใจ(อันอ่อนล้า)ไปเป็นกำลังใจให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน  
          
          ขอให้ประสบความสำเร็จครับ





"ทำให้สำเร็จนะครับ คุณประจวบ ปีหน้าเลือกอีก ชัวร์" 
(ว่าแต่ว่า เมื่อไหร่จะขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากบ้างล่ะครับ ของแพงจัง)


          สำหรับผม ในฐานะที่เป็นกรรมการ ชมรมผู้เกษียณ ชสอฟ. อยู่ด้วย ก็ได้รายงานให้คณะกรรมการทราบแล้ว  และคณะกรรมการมีมติว่า หากท่านประธานสหภาพฯจะไปเจรจาฯ หรือไปติดตามผลจากฝ่ายบริหารเมื่อไหร่ ขอให้แจ้งให้ชมรมฯทราบด้วย   ทางชมรมฯจะได้นำกระเช้าดอกไม้ไปร่วมให้กำลังใจต่อไป ขอขอบคุณอีกครั้งครับ  สวัสดี....



***************************


1 Response to อยากจะเป็น "สูงวัย ใจโจ๋" (บ้าง)

นายฉันกร โรมพันธิ์
30 มิถุนายน 2554 เวลา 20:32

30 มิถุนายน 2454 เวลา 9.30 น
มีสมาชิกกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 80 คน นำโดย จ่าเอกพิพัทธิ์ วงษ์ฤทธิ์ และนายประพงษ์ ทองทวี ได้มายื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ และ ดอกเบี้ยเงินฝาก โดยมีการตั้งเครื่องเสียงปราศรัยโจมตีการทำงานของกรรมการบริหารสหกรณ์ชุดปัจจุบัน ต่อมาเวลา 10.00น นายสิทธิพร มีเสถียร และนายประจวบ คงเป็นสุข ลงมารับหนังสือ แต่จ่าเอกพิพัทธิ์
กับเปลี่ยนประเด็นไปพูดเรื่องเจ้าหน้าที่ สหภาพฯ คนหนึ่ง ที่ทางกรรมการ สอฟ.ตั้งกรรมการสอบสวนการทุจริต การปลอมแปลงเอกสารอยู่ เป็นที่รู้กันอยู่ว่าเป็นคนสนิลๆๆๆๆๆๆ ของจ่าพัทธิ์ ทำให้ประธานสหภาพฯ เดินหนี้ไม่ยอมเจราจาด้วย ถือได้ว่าครั้งนี้ มีว่าระซ่อนเร้นหลอกสมาชิกมาบังหน้าทำตัวเป็นฮีโร่ สุดท้ายสมาชิกก็โห่ไล่ หน้าสงสารจริง อยากจะบริหารสหกรณ์
รออีก 6 เดือนเท่านั้นเอง เวทีการเลือกตั้งก็เปิดแล้ว

ประชาสัมพันธ์

แสดงความคิดเห็น